CPF - ซื้อ

CPF - ซื้อ

2 ปัจจัยบวกใหม่หนุนกำไร

เรามองว่ามีปัจจัยบวกหนุนกำไรของ CPF ในปีนี้ ได้แก่ (1) ราคาสุกรในเวียดนามที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่ม อัตรากำไรขั้นต้น (2) กำลังการผลิตของบริษัทร่วม Hylife จะช่วยเพิ่มกำไรจากกิจการร่วมค้า (Equity income) ราว 600 ล้านบาทต่อปี จากแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่น เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 36.25 บาทต่อหุ้น (จากเดิม 32.75 บาท)

 

ราคาสุกรในเวียดนามแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี

ราคาสุกรในเวียดนามแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีที่ 103,000 ดงต่อ ก.ก. หนุนโดยการขาดแคลนเนื้อสุกรอย่างรุนแรงหลังจากเกิดการระบาดของโรคอหิวาต์ในแอฟริกันในสุกร (ASF) ในปีที่แล้ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในจังหวัด Long An ภาคใต้ของประเทศ ทั้งนี้รัฐบาลเวียดนามพยายามที่จะควบคุมราคาสุกรโดยอนุญาตให้นำเข้าเนื้อสุกรแช่เย็นแช่แข็งจากต่างประเทศ แต่ผู้บริโภคภายในประเทศนิยมบริโภคเนื้อสุกรที่เลี้ยงในประเทศมากกว่าซึ่งทำให้ยากที่จะปรับลดราคาลงมา ดังนั้นเราจึงคาดว่าราคาสุกรในเวียดนามจะยังทรงตัวอยู่สูงกว่า 70,000 ดงต่อ ก.ก. สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ซึ่งสูงกว่าสมมติฐานของเราก่อนหน้านี้ที่ 60,000 ดงต่อ ก.ก.

 

กำลังการผลิตของ Hylife จะช่วยเพิ่มกำไรจากกิจการร่วมค้า

Hylife ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (joint venture) ระหว่าง CPF และ ITOCHU ได้ประกาศว่าบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตสุกรในพื้นที่ North American ด้วยการเข้าซื้อกิจการ ProVista ใน Canada และซื้อหุ้น 75% ของ Prime Pork ใน US  โดย ProVista เป็นหนึ่งในบริษัทฟาร์มสุกรอิสระที่ใหญ่ที่สุดใน Canada ด้วยกำลังการผลิตราว 1 ล้านตัวต่อปี ในขณะที่ Prime Pork เป็นบริษัทแปรรูปและจำหน่ายผลิตภํณฑ์สุกรในรัฐ Minnesota ด้วยกำลังการผลิต 1.2 ล้านตัวต่อปี การซื้อกิจการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตสุกรและกำลังการแปรรูปสุกรราว 50% และ 60% สู่ระดับ 3.0 และ 3.2 ล้านตัวต่อปี คาดช่วยเพิ่มกำไรจากกิจการร่วมค้า ราว 600 ล้านต่อปี

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 36.25 บาทต่อหุ้น (จาก 32.75 บาทต่อหุ้น)

เราปรับกำไรสุทธิปี FY20F ขึ้น 22% เป็น 2.15 หมื่นล้านบาทและปี FY21F ราว 16% เป็น 2.19 หมื่นล้านบาท โดยเราปรับอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 16.25% และ 16.0% (จากเดิม 15% ในแต่ละปี) หลังจากปรับสมมติฐานราคาเฉลี่ยสุกรในเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 72,500 ดงต่อ ก.ก. และ 65,000 ดงต่อ ก.ก. (จากเดิม 60,000 ดงและ 55,000 ดง) พร้อมกับปรับเพิ่มกำไรจากกิจการร่วมค้าสู่ระดับ 8.7 พันล้านบาท สำหรับปี FY20F และ 9.5 พันล้านบาท สำหรับปปี FY21F จากระดับ 8.3 พันล้านบาท และ 8.9 พันล้านบาท ตามลำดับ  เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่น กำหนดราคาเป้าหมายใหม่เทียบเท่า 16x FY20F core EPS