มีโอกาสลดความร้อนแรง จากความกังวลสหรัฐฯ-จีน และการปรับขึ้นใกล้ 1360 จุด

มีโอกาสลดความร้อนแรง จากความกังวลสหรัฐฯ-จีน และการปรับขึ้นใกล้ 1360 จุด

ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีนไม่น่ากังวลตราบที่ไม่มีมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

หลังจากที่จีนมีการเสนอพิจารณาออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับฮ่องกง ขณะที่สหรัฐฯ แสดงความไม่เห็นด้วยและประธานาธิปดีทรัมป์แถลงว่าจะประกาศนโยบายใหม่กับจีนวันนี้ ส่งผลให้ความตึงเครียดของ 2 ประเทศเพิ่มขึ้น และดัชนีหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงตลาดล่วงหน้าปรับลดลง อย่างไรก็ตามเรามองเป็น “สัญญาณรบกวน” มากกว่าปัจจัยลบที่รุนแรง และไม่น่ากังวลหากไม่นำมาสู่การออกมาตรการที่กระทบตลาด อย่างเช่นการขึ้นภาษีการค้า เหมือนในสงครามการค้าช่วงแรก อีกทั้งใกล้การเลือกตั้งประธานาธิปดี ในช่วง พ.ย.

คาดแรงบวกจากการผ่อนคลายระยะที่ 3 จำกัด วันนี้ศบค.พิจารณาการผ่อนปรนระยะที่ 3 โดยคาดจะลดช่วงเวลาออกนอกเคหะสถานให้สั้นลง, อนุญาตการจัดงานที่มีคนจำนวนมาก, ขยายเวลาให้บริการห้างสรรพสินค้า, การอนุญาตทานอาหารในร้านเป็นกลุ่ม 4-6 คน , รวมถึงการอนุญาตโรงภาพยนตร์และมหรสพ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกระดับ อย่างไรก็ตามผลดีจากมาตรการดังกล่าวรับรู้เข้าไปในราคาหุ้นระยะสั้นแล้ว ส่งผลให้อัพไซด์ระยะสั้นจำกัด และอาจเห็นแรงทำกำไรในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้อง

มีโอกาสลดความร้อนแรงลง ความกังวลสหรัฐฯ-จีน ประกอบกับตลาดรับรู้ปัจจัยบวกส่วนใหญ่ไปพอสมควร และอาจกลับมาจับตาสถานการณ์ระบาดโควิดทั่วโลกระลอกสองในช่วงกลางมิ.ย.หลังการเปิดเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ คาดตลาดใช้ปัจจัยข้างต้นเป็นประเด็นขายทำกำไรลดความร้อนแรง โดยมีแนวรับที่ 1320 จุด และหากไม่หลุด 1300 จุด โมเมนตัมการเก็งกำไรเชิงบวกยังไม่เปลี่ยนทาง

เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ 1) กลุ่มที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ดี/ดีกว่าอุตสาหกรรม ได้แก่ IVL, SCC, STA, TIP, VRANDA 2) หุ้นกำไรมั่นคง (defensive) GPSC, BCPG, RATCH, BCH, CHG, SSP, SUPER 3) กลุ่มประกันภัย TIP และ THRE 4) กลุ่มการเงินที่ยังไม่แพง BFIT, AMANAH 5)หุ้นเข้า MSCI (29 พ.ค.) ได้แก่ AWC, BAM, KTC 5) กลุ่มธนาคาร ชอบ BBL และ KBANK ทั้งนี้การเก็งกำไรในกรอบ 1300-1400 จุด ควรคุมความเสี่ยงด้วยการตั้งขาดทุนทุกครั้ง

ภาพรวมกลยุทธ์ หุ้นหลายตัวเริ่มมีสัญญาณซื้อมากเกิน หรือเกิดสัญญาณขัดแย้งในกรอบเวลาระยะชั่วโมง ทำให้ต้องระวังแรงทำกำไรในกลุ่มที่ปรับขึ้นเร็วหรือมากเกินไป รวมถึงปรับการเก็งกำไรมาซื้อในเชิงตั้งรับ  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  BBL, CPF*, THRE*, ECL*

แนวรับ 1,320-1,334 / แนวต้าน : 1,350-1,360 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐฯเตรียมยกเลิกวีซ่านักศึกษา-วิจัย ของจีน สหรัฐฯ เตรียมยกเลิกวีซ่านักศึกษา-วิจัยของจีน จำนวนหลายพันคนที่จบการศึกษาจากสหรัฐฯ โดยนักศึกษาจีนที่ถูกยกเลิกวีซ่าจะต้องเดินทางกลับประเทศและผู้ที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าสหรัฐ

ผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ 2.1 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.05 ล้านราย

คาดการณ์ US GDP 1Q63 (ครั้งที่ 2) – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ GDP ไตรมาส 1/2563 ครั้งที่ 2 หดตัว 5% แย่กว่าตัวเลขคาดการณ์ครั้งที่ 1 ที่ชี้ว่าหดตัว 4.8% รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdowns ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19

สรรพสามิตยันหั่นภาษีรถต้องรอเวลาที่เหมาะสม สรรพสามิตชี้มาตรการหั่นภาษีรถยนต์ 50% ต้องรอเวลาที่เหมาะสม ชี้ไม่สร้างกำลังซื้อรวมทั้งยังกระทบมูลค่ารถยนต์ในตลาดทั้งระบบ ด้าน ส.อ.ท.เล็งเข้าพบนายกฯ เสนอออกมาตรการรถเก่าแลกรถใหม่

ปลด SP หุ้น HYDRO และ PACE ชั่วคราว – ตลท.เตรียมอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ HYDRO และ PACE ชั่วคราว 1 เดือน (4 มิ.ย.-3 ก.ค.) หลังขึ้น SP มา 3 เดือน หลังจากนั้นยังคงพักการซื้อขายจนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินได้ครบถ้วน

ประเด็นติดตาม: 1 มิ.. – US PMI / 4 มิ.. – ECB meeting / 5 มิ.. – ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)