หุ้นแบงก์กอดคอวิ่ง ช่วยดัน SET ช่วงเปิดตลาด โบรกชี้ 'ราคาถูก - ปันผลดี'

หุ้นแบงก์กอดคอวิ่ง ช่วยดัน SET ช่วงเปิดตลาด โบรกชี้ 'ราคาถูก - ปันผลดี'

หุ้นกลุ่มแบงก์พุ่งขึ้นหลังเปิดตลาด นำโดย 3 แบงก์ใหญ่ 'KBANK - BBL - SCB' โบรกมองราคาหุ้นยังต่ำและปันผลสูง แต่แนะนำเพียงเก็งกำไร

ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BANK) ในช่วงหลังเปิดตลาดเช้านี้ (28 พ.ค.) เป็นไปในทิศทางเชิงบวก โดยหุ้นในกลุ่มทั้ง 11 บริษัท สามารถปรับตัวขึ้นได้ทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ใหญ่ อย่าง บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และบมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปรับตัวขึ้นได้ 3-5% โดยภาพรวมทำให้กลุ่มแบงก์ช่วยดันดัชนี SET ขึ้นมาราว 5 จุด จากที่บวกอยู่ 8-9 จุด ในช่วงเช้านี้

นายภาดล วรรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวขึ้นนำตลาดในวันนี้ เป็นผลจากมูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างถูก โดยเฉพาะหุ้นแบงก์ใหญ่ ซึ่งมีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ที่ราว 0.7 - 0.8 เท่า และยังให้อัตราเงินปันผลราว 7% ต่อปี

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มแบงก์ยังได้แรงหนุนจากประเด็นเรื่องของ พ.ร.ก. เงินกู้งบประมาณของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจโดยภาพรวมฟื้นตัวดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง จึงคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์น่าจะผ่านช่วงที่แย่ที่สุดไปแล้ว

"ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำเป็นการเก็งกำไร (Trading) เป็นรายตัวสำหรับหุ้นในกลุ่มแบงก์ จากจุดเด่นคือความเสี่ยงค่อนข้างจำกัด เพราะมูลค่าต่ำมากแล้ว สำหรับการเก็งกำไรแนะนำ KTB และ SCB ส่วนการถือเพื่อรับปันผลแนะนำ TISCO ซึ่งคาดว่าจะให้ผลตอบแทน 9%"

ด้าน บล.ยูโอบีเคย์เฮียน มองกลุ่มแบงก์วันนี้ มีโอกาสเห็นการเก็งกำไรโยกเข้ากลุ่มธนาคาร หลังหุ้นธนาคารเป็นกลุ่มที่แย่กว่าตลาด (underperform) ที่สุด โดยปรับลดลง 35% จากต้นปี ขณะที่มูลค่าหุ้นซื้อขายในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีมาก

นอกจากนี้สินเชื่อของกลุ่มมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการสภาพ คล่องเนื่องจากวิกฤติโควิดและการสำรองวงเงินเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ ตราสารหนี้จากสถานการณ์ ความไม่เชื่อมั่นที่เกิดขึ้น ขณะที่ผลกระทบจากหนี้เสียถูกบรรเทาเบาบางลงไปจากมาตรการของธปท.ที่อนุโลมเกี่ยวกบการตั้งสำรองและการประเมินมูลค่ายุติธรรม โดยเรามอง BBL และ KBANK น่าสนใจที่สุด

แนะนำ เก็งกำไร BBL ราคาเหมาะสม 138 บาท ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 15.7%. และมีอัตราส่วน LLC ที่สูงอยู่ที่ 204% นอกจากนี้ ยังมีราคาหุ้นที่ค่อนขางถูก จาก P/BV ปีนี้ที่ 0.45 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 6.6%