‘ซีพีเอฟ’ลุ้นกำไรพุ่ง ดันหุ้น‘นิวไฮ’รอบ3ปี

‘ซีพีเอฟ’ลุ้นกำไรพุ่ง  ดันหุ้น‘นิวไฮ’รอบ3ปี

หุ้น“ซีพีเอฟ”ลุ้นผลประกอบการปีนี้โตเด่น นักวิเคราะห์ประเมินกำไรปกติโตเกือบเท่าตัว แตะ1.8 หมื่นล้านบาท พร้อมได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อฟาร์มหมูในแคนาดา ดันราคาแตะ 31.50 บาท สูงสุดในรอบ 3 ปี

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ปิดตลาดที่ระดับ  31.25 บาท  ปรับขึ้น 2.25 บาท หรือ 7.76% มูลค่าการซื้อขาย 3,319 ล้านบาท โดยราคาดังกล่าว เป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 ปี ทั้งนี้ ราคาหุ้น CPF เคยปรับตัวลดลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 18.70 บาท เมื่อต้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องกว่า 65% ในขณะนี้

นางสาวนารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของหุ้น CPF เป็นผลจากการคาดหวังต่อผลประกอบการของ CPF ที่น่าจะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มอาหารในปีนี้ ซึ่งเริ่มสะท้อนให้เห็นมาตั้งแต่ไตรมาสแรก ที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด โดยมีรายได้ 1.43 แสนล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6.11 พันล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.28 พันล้านบาท

การปรับตัวขึ้นของผลประกอบการไตรมาสแรก และแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง เป็นผลจากราคาเนื้อสัตว์ทั้งในไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะที่เวียดนามเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ก็ปรับตัวลดลงด้วย นอกจากนี้ ยังคาดหวังว่าการส่งออกเนื้อสัตว์จากไทยในปีนี้อาจจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย

“ในบางประเทศซึ่งเป็นผู้ส่งออกเนื้อสัตว์รายใหญ่ อาทิ บราซิล เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับโควิด-19 รุนแรงขึ้น จึงมีการคาดการณ์กันว่าไทยจะส่งออกไปทดแทนได้ในบางพื้นที่ และด้วยราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ากำไรของ CPF จากการดำเนินการปกติ ไม่รวมรายการพิเศษต่างๆ จะปรับเพิ่มขึ้นได้เกือบเท่าตัว จาก 9.7 พันล้านบาท เป็น 1.8 หมื่นล้านบาทในปี 2563 นี้”

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า CPF ยังได้แรงหนุนจากข่าวที่บริษัทย่อย HyLife เข้าซื้อฟาร์มสุกรในแคนาดาและลงทุนถือหุ้นในโรงงานแปรรูปสุกรสหรัฐ  เรามีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อหุ้น CPF ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ ทำให้ CPF มีช่องทางธุรกิจสุกรในต่างประเทศ เนื่องจากไทยไม่สามารถส่งออกสุกรได้

ทั้งนี้ แคนาดานับเป็นผู้ส่งออกสุกรอันดับ 3 ของโลก มีตลาดญี่ปุ่นและจีนเป็นหลัก ซึ่งได้อานิสงส์จีนยังขาดหมูอยู่ ดังนั้นการที่ CPF ใช้ HyLife ที่มีช่องทางขยายตลาดสุกรในต่างประเทศนับว่าเป็นผลดี แต่เราให้ความระมัดระวัง เพราะ CPF จะมีปัญหาในการดูแลบริษัทย่อยในสหรัฐ-ยุโรป ซึ่งอาจจะยากกว่าการบริหารบริษัทย่อยที่อยู่ในเอเชีย ส่วนเงินลงทุนในดีลนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ราว 1.77 หมื่นล้านบาท เทียบเคียงกับเมื่อครั้งเข้าถือหุ้น HyLife 50%