กรมการแพทย์แผนไทยฯ เตรียมแนวทางให้บริการการแพทย์แผนไทย

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เตรียมแนวทางให้บริการการแพทย์แผนไทย

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยแนวทางการใช้บริการการแพทย์แผนไทยล่าสุด ในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐทั่วประเทศ เน้นมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอน สอดคล้องกับสถานการณ์ป้องกันควบคุมโรคไวรัสโควิด – 19 ในยุค NEW NORMAL

นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวภายหลังการแถลงข่าวประเด็น “แนวทางการให้บริการการแพทย์แผนไทย ในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ เพื่อป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัส โควิด - 19” ในเวทีแถลงข่าวสถานการณ์โรคไวรัสโควิด – 19 ประจำวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ว่า ล่าสุด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้วางแนวทางการให้บริการการแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ เพื่อป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019) พ.ศ. 2563

อย่างเช่น มีจุดคัดกรอง พร้อมอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิ แอลกอฮอลล์ 70% หรือเจลแอลกอฮล์ 70% สำหรับทำความสะอาดมือ คัดกรองและวัดอุณหภูมิผู้ปฏิบัติงานทุกราย วันละ 2 เวลา เช้า – บ่าย ก่อนปฏิบัติงาน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 - 2 เมตร วัดอุณหภูมิผู้มารับบริการ/ผู้ให้บริการทุกราย ถ้ามีไข้เกิน 37.3 C และเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ติดเชื้อ การเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือมีโรคประจำตัว ให้ส่งต่อรับการดูแลทางการแพทย์แผนปัจจุบันทันที

ประชาชนที่เข้ารับบริการ ต้องจองล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการผ่านระบบ ออนไลน์ โทรศัพท์ แอปพลิเคชัน หรือในกรณีไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า ให้จัดสถานที่สำหรับผู้รับบริการกรอกข้อมูลโดยการเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร และมีที่กั้นระหว่างบุคคล บันทึกรายชื่อ ที่อยู เบอร์โทรศัพท์ วันที่และเวลาของผู้มารับบริการทุกราย เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ในกรณีที่ต้องสอบสวนโรค บันทึกรายชื่อผู้ให้บริการ และกิจกรรมที่ให้บริการกับผู้รับบริการทุกราย มีระบบติดตามผู้รับบริการทุกราย หลังรับบริการอย่างน้อย 14 วัน มีสื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้เรื่องโรคติดต่อ ในส่วนกิจกรรมบริการการแพทย์แผนไทย ที่สามารถดำเนินการได้ เช่น การตรวจวินิจฉัย การจ่ายยาสมุนไพร การนวดไทยเพื่อการรักษา การประคบสมุนไพรเพื่อการรักษาและการดูแลมารดา หลังคลอด ซึ่งระยะเวลาในการให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง / ครั้ง ทั้งนี้งดกิจกรรมการอบไอน้ำสมุนไพร งดนวดบริเวณศีรษะและใบหน้า เป็นต้น


สำหรับสถานบริการ จัดให้มีหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (Face Shield) และถุงมือ ลูกประคบสมุนไพร ให้ใช้เฉพาะเป็นรายบุคคล และนึ่งลูกประคบสมุนไพร ไม่น้อยกว่า 30 นาที ก่อนนำไปประคบ ผ้ารองลูกประคบ จะต้องผ่านการ ฆ่าเชื้อทุกผืน จัดให้มีเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนของผู้มารับบริการ โดยอยู่ในถุงที่แยกแต่ละชุดและผ่านการอบฆ่าเชื้อทุกตัว ในส่วนอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย ให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ 70% และที่สำคัญต้องทำ ความสะอาด เตียงนวด/ประคบ หมอน เบาะยาง และเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าขวางเตียง ก่อนและหลังให้บริการทุกครั้ง

นายแพทย์ปราโมทย์ กล่าวในตอนท้ายว่า ผู้รับบริการทุกท่านต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่รับบริการ ที่สำคัญต้องไม่ปิดบังข้อมูลส่วนตัว เช่น โรคประจำตัว การเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง การสัมผัสใกล้ชิดบุคคลในครอบครัวที่มี การติดเชื้อและหากพบว่าตนเองมีไข้ หรืออาการป่วยทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อโรคโควิด – 19 หลังเข้ารับบริการในช่วง 14 วัน ต้องแจ้งสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ และพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ ของโรคโควิด – 19 ต่อไป