ขึ้นต่อ

ขึ้นต่อ

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวต้าน 1345 / 1352 จุด แนวรับ 1323 / 1318 จุด ปัจจัยบวก คือ ข่าว Merck รายงานผลทดสอบวัคซีนรักษา COVID-19 เป็นบวก และจะทดสอบในเฟสต่อไป และการเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดการท่องเที่ยวของหลายประเทศในยุโรป (หุ้นสายการบินพุ่งขึ้นกว่า 10%) ปัจจัยลบ คือ ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมแถลงมาตรการแซงก์ชั่น หากสภาจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง และอุณหภูมิการเมืองไทยร้อนแรงขึ้นจากการประชุมสภาฯ วันแรก

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

        1) หลายประเทศคลายมาตรการ lockdown เพิ่มเติม โดยเฉพาะสเปน เยอรมนี เริ่ม ผ่อนคลายข้อจำกัดการท่องเที่ยว

        2) จับตามาตรการแซงก์ชั่นจีน หลังประธานาธิบดีทรัมป์ เผยว่า จะแถลงเรื่องกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงของจีนปลายสัปดาห์นี้

        3) คาดอุณหภูมิการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น จากการประชุมสภาฯ พิจารณา พ.ร.ก. กู้เงิน 4 ฉบับ เป็นวันแรก

        4) ศาลล้มละลายกลางนัดฟังคำสั่งว่าจะรับหรือไม่ ต่อคำร้องเข้ากระบวนฟื้นฟูกิจการของ THAI วันนี้ (กระทบต่อเจ้าหนี้ที่ต้องตั้งสำรอง จากภาวะหยุดจ่ายหนี้ทุกราย)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: EC-สภาฯ เสนอแผน Recovery Fund โดย 27 ชาติสมาชิก จะพิจารณาภายในกลางเดือน มิ.ย., USA-สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์, Fed Beige Book, China-industrials profits เดือน เม.ย.(YTD) คาด -28% (Vs เดือน มี.ค. -36.7% YoY) ไทย-อัตราว่างงานเดือน เม.ย. คาดเพิ่มขึ้นเป็น 1.3% (เดือน มี.ค. 1%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยขึ้นต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยยืนในแดนบวกตลอดการซื้อขาย โดยขึ้นไปสูงสุดที่ 1345.31 จุด +24.33 จุด ก่อนมาปิดที่ระดับ 1336.09 จุด +15.11 จุด +1.14% วอลุ่ม 7.38 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำขึ้น คือ มีเดีย +3.6% รับเหมาฯ +2.46% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +2.16% หลักทรัพย์ที่ขึ้นแรง >6% MINT KCE THANI PLANB CENTEL ERW AAV PK CHOW DDD GL THAI PJW HTECH

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: ความคืบหน้าของวัคซีนรักษาไวรัสฯ และการผ่อนคลาย lockdown ที่เพิ่มมากขึ้นของหลายประเทศ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นโลก DJ +2.17% S&P500 +1.23% Nasdaq +0.17% ตลาดหุ้นยุโรปสูงสุดรอบ 11 สัปดาห์ นำขึ้นโดยกลุ่มการเดินทาง หลังเยอรมนีและสเปนผ่อนคลายข้อจำกัดการท่องเที่ยว CAC40 +1.45% DAX +1% FTSE +1.24%

+/- น้ำมันดิบปิดบวก แต่ทองร่วงแรง: WTI +USD1.10 +3.3% ปิดที่ USD34.35/บาร์เรล Brent +USD0.64 +1.8% ปิดที่ USD36.17/บาร์เรล จากอุปทานที่ลดลงตามการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคพลัส แต่ทองคำร่วงแรง -USD29.90 -1.72% ปิด USD1,705.6/ออนซ์ จากการขายสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

+ ไทย: ศบค. รายงาน 1) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3 ราย (Vs วันจันทร์ที่ผ่านมา 2 ราย) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,045 ราย 2) จำนวนผู้เสียชีวิต 0 ราย (Vs วันจันทร์ที่ผ่านมา 1 ราย) จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 57 ราย คาดที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่วันศุกร์นี้ จะมีมติผ่อนปรนเฟส 3 เพิ่มเติม ส่วนผลประชุมครม. วานนี้ มีมติขยายพ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน เป็นวันที่ 30 มิ.ย. และสมช. ประชุมวันนี้ หารือปรับลดเวลาเคอร์ฟิว ก่อนเสนอบอร์ดศบค. วันศุกร์

+ UK: อนุญาตให้เปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ตลาดสด โชว์รูมรถยนต์ ตั้งแต่ วันที่ 1 มิ.ย. ส่วนร้านค้าปลีกที่ไม่ได้จาหน่ายสินค้าจำเป็นเปิดตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.

+ Spain: รัฐบาลสเปนเพิ่มการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เพิ่มเติม โดยจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นไป

+ USA: Merck เผยอยู่ระหว่างทดสอบวัคซีนที่พัฒนาร่วมกับองค์กรวิทยาศาสตร์ที่ไม่มุ่งหวังผลกำไร IAVI โดยผลทดสอบครั้งแรกฯ จะทราบในเดือน ก.ค.

- การเมืองไทย: สภาผู้แทนฯ ประชุมในวันที่ 27-31 พ.ค. พิจารณา 4 พ.ร.ก. กู้เงิน คาดโหวตผ่านอิงเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลมีคะแนนเสียงรวมกัน 263 เสียง ต่อพรรคฝ่ายค้านมี 235 เสียง

- US-China: ประธานาธิบดีทรัมป์ เผยจะแถลงเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงของจีนปลายสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะมีการออกมาตรการแซงชั่นทั้งบุคคลและการค้าต่อจีน หากสภาฯ จีนผ่านกฎหมายฯ สัปดาห์นี้

+ China: วานนี้ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านหยวน (หรือ USD1.4bn) เข้าสู่ระบบการเงิน

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BTS TOP CRC

หุ้นแนะนำ Trading Buy: BAM BDMS BTS CPALL CENTEL CRC GLOBAL IVL HMPRO KBANK OSP TASCO

Derivatives: แนะชะลอเก็งกำไร ลดการครองสถานะ (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)