Hotel Sector (27 พ.ค.63)

Hotel Sector (27 พ.ค.63)

เลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวจากปัจจัยบวกที่หลั่งไหลเข้ามา

Event

อัพเดตกลุ่มโรงแรม

Impact

มีปัจจัยบวก 2 เรื่องที่เข้ามา

ปัจจุบันมีปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มโรงแรมสองเรื่อง ได้แก่ i) สเปนมีแผนจะกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป และ ii) ประเทศไทยอาจมีการยกเลิกมาตรการ lockdown และจัดโครงการ “ไทยเที่ยวไทย” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

เรามีมุมองเป็นกลางต่อข่าวที่สเปนมีแผนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง เนื่องจากเรามองว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องใช้เวลาในการเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับต้น ๆ ของสเปนก็ยังคงประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างรุนแรงอยู่ (Figure 1) ดังนั้น เราจึงยังคงแนะนำให้ ขาย Minor International (MINT.BK/MINT TB)* ในขณะเดียวกัน เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่รัฐบาลอาจผ่อนคลายมาตรการ lockdown ในประเทศไทย ซึ่งได้สอดคล้องกับมุมมองของเราว่านักท่องเที่ยวในประเทศจะเป็นกลุ่มแรกที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงที่ COVID-19 ระบาด โดยเราคาด Central Plaza Hotel (CENTEL.BK/CENTEL TB)* และ The Erawan Group (ERW.BK/ERW TB) น่าจะได้อานิสงส์จากกลุ่มนี้และหนุนให้ผลการดำเนินงานทยอยฟื้นตัวขึ้นได้

คงให้นํ้าหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Neutral

ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ COVID-19 เรายัคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Neutral โดยเราแนะนำให้เลือกหุ้นเป็นรายตัว ซึ่งหุ้นที่เราชอบคือหุ้นที่มีภาระหนี้ต่ำ รายได้ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย และมีการกระจายความเสี่ยงของประเภทธุรกิจ

CENTEL (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท) ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงแรม เนื่องจาก i) ความเสี่ยงทางการเงินต่ำที่สุดในกลุ่ม โดยมีสัดส่วน D/E ใน 1Q63 อยู่ที่ 0.7x (debt covenant: 2.0x) และ ii) ธุรกิจร้านอาหาร (76% ของยอดขายในปี 2563F) น่าจะฟื้นตัวได้เร็วหว่า และยังได้อานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ภายในประเทศ

ERW (ถือ ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท) เรามองว่ามีโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้ในฐานะที่เป็น pure play ขณะที่ สัดส่วน D/E ของ ERW ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ 1.8x ใน 1Q63 เมื่อเทียบกับ debt covenant ที่ 2.5x

MINT (ขาย ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท): เรายังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังต่อ MINT จาก i) fully dilution ที่ 18% ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นในระยะกลาง และ ii) รายได้จากธุรกิจโรงแรม กระจุกตัวอยู่ในยุโรป (มากกว่า 60%) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฟื้นตัวช้ากว่าหุ้นอื่นในกลุ่มนอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงว่าต่อความสำเร็จในการเพิ่มทุน และการออกพันธบัตรแบบไม่กำหนดอายุ (perpetual bond) ใน 3Q63F

Risks

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างมากจนเกินกว่าสมมติฐานของเรา