แกว่งตัว 1320-1360 จุด โมเมนตัมยังบวกแต่ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง

ภาพการลงทุนโดยรวมยังเป็นบวกจากโมเมนตัมการฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั่วโลก, ข่าวผลการทดสอบวัคซีนตัวใหม่ (Novavax) และการแสดงความเห็นของน.พ.เฟาซี ผอ.ศูนย์โรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ ที่คาดว่าวัคซีนสำหรับโคโรนาไวรัส อาจแล้วเสร็จในช่วงปลายปี-ต้นปีหน้า รวมทั้งการรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่จากทางยุโรปคืนนี้ (27 พ.ค.) อย่างไรก็ตามต้องติดตามความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน หลังประธานาธิปดีทรัมป์กำลังพิจารณาคว่ำบาตรบริษัทจีนในฮ่องกง ซึ่งอาจทำให้เกิดการตอบโต้จากทางจีน

ยังต้องระวังแรงกระเพื่อมจากตลาดตราสารหนี้ ซึ่งล่าสุดเกิดกรณีเงินกองทุนของบล.แห่งหนึ่งไม่เพียงพอจากผลของอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ THANI ประกาศเพิ่มทุน ซึ่งเราคาดว่าเพื่อรองรับความเสี่ยงจากการที่ผู้ลงทุนในตราสารหนี้/หุ้นกู้ เพิ่มความระมัดระวัง ผลของการลดความเสี่ยงของนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันในตลาดตราสารหนี้ ทำให้มีความเสี่ยงที่ต้นทุนของการกู้ยืมจะสูงขึ้น แต่อาจส่งผลบวกต่อยอดสินเชื่อของธนาคารที่จะเป็นแหล่งสภาพคล่องฉุกเฉินให้แก่ธุรกิจ

การลงทุนยังกระจุตัวในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก จากตัวเลขการปรับประมาณการกำไรของตลาดที่ยังคงปรับลดลง ทำให้หุ้นขนาดใหญ่มีความเคลื่อนไหวที่กระจุกอยู่ในกลุ่มที่มีโมเมนตัมกำไรเชิงบวก (ไฟฟ้า) และตลาดขับเคลื่อนด้วยหุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งที่สหรัฐฯ (Russell2000) และหุ้นไทย (FTSE Set Medium Cap / FTSE Set Small Cap) อย่างไรก็ตามต้องระวังการเคลื่อนไหวของหุ้นอาจวิ่งเร็วเกินการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และติดตามการลงทุนใกล้ชิดหลังปัจจัยบวกระยะสั้นส่วนใหญ่อยู่ในความรับรู้ของนักลงทุนแล้ว

เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ 1) กลุ่มที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ดี/ดีกว่าอุตสาหกรรม ได้แก่ IVL, SCC, STA, TIP, VRANDA 2) หุ้นกำไรมั่นคง (defensive) GPSC, BCPG, RATCH, BCH, CHG, SSP, SUPER 3) กลุ่มประกันภัย TIP และ THRE 4) กลุ่มการเงินที่ยังไม่แพง BFIT, AMANAH 5)หุ้นเข้า MSCI (29 พ.ค.) ได้แก่ AWC, BAM, KTC ทั้งนี้การเก็งกำไรในกรอบ 1300-1400 จุด ควรคุมความเสี่ยงด้วยการตั้งขาดทุนทุกครั้ง

ภาพรวมกลยุทธ์ หลังสร้างฐานบริเวณ 1280-1320 จุด มีโอกาสเหวี่ยงขึ้น 1350-1360 จุด แต่ต้องเริ่มระวังการเคลื่อนไหวของหุ้นในระยะสั้นที่เริ่มปรับขึ้นเกินกว่าระดับการฟื้นตัวจริงทางเศรษฐกิจ  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  CPF*, THRE*, SSP*

แนวรับ 1,328 / แนวต้าน : 1,350-1,360 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

 

ประเด็นการลงทุน

สเปน เยอรมนี คลายข้อจำกัดท่องเที่ยว– สเปน เยอรมนี เตรียมผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยวหลังไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการ Lockdowns

PBOC หนุนสภาพคล่องวงเงิน 5 พันล้านหยวน – แบงก์ชาติจีน (PBOC) ออกมาตรการ CBS ครั้งที่ 5 ของปีนี้ ตั้งเป้าหนุนสภาพคล่องหุ้นกู้แบงก์พาณิชย์ ผ่านวงเงิน 5 พันล้านหยวน โดยจะเปิดให้ดีลเลอร์เสนอซื้อหุ้นกู้โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.1% และจะครบกำหนด swap ในวันที่ 26 ส.ค. 2563

THANI – ประกาศเพิ่มทุน 2:1 ที่ราคาใช้สิทธิ์ 1 บาท แบบไม่มีสัญญาณล่วงหน้า คาดเกิดขึ้นจากเพิ่มสภาพคล่อง เพื่อรองรับการรีไฟแนนซ์ตราสารหนี้ที่ครบกำหนดปีนี้ (มิ.ย.-ธ.ค.62) ราว 18,500 ล้านบาท

THAI – ยื่นขอฟื้นฟูกิจการพร้อมรายชื่อผู้ทำแผนแล้ว ศาลล้มละลายนัดฟังคำสั่งวันนี้

CBG – เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ แจ้งขายหุ้น 22.5 ล้านหุ้นให้กลุ่มนักลงทุนในประเทศ/ต่างประเทศ และคงเหลือหุ้นหลังทำรายการ 32.12%

ประเด็นติดตาม: 27 พ.ค. – TH Industrial production, ยุโรปพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ/ 28 พ.ค. – US GDP 1Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)