ได้รายชื่อคนเอี่ยวหักค่าหัวคิวจากกลาโหมแล้ว เร่งสืบสวน

ได้รายชื่อคนเอี่ยวหักค่าหัวคิวจากกลาโหมแล้ว เร่งสืบสวน

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เผย ได้รับรายชื่อขบวนการแอบอ้างเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวผู้ประกอบการโรงแรมกักตัวคนไทยกลับจากต่างประเทศจากกระทรวงกลาโหมแล้ว ขอเวลาสืบสวน ยันไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐ-หรือคนใน ศบค.เกี่ยวข้อง ส่วนอักษรย่อ “พ.”ไม่รู้ว่าเป็นใครยังไม่มีข้อ

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 63 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณี กระทรวงกลาโหมนำหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการแอบอ้างเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวผู้ประกอบการโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวคนไทยกลับจากต่างประเทศ (State Quarantine) ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทางกระทรวงกลาโหมไม่ได้ส่งข้อมูลมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่พัทยา จว.ชลบุรี คาดว่าข้อมูลน่าจะมีการส่งไปให้ตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการ พร้อมระบุทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไม่ได้สั่งกำชับอะไรเป็นพิเศษ เมื่อมีการร้องเรียนให้ดำเนินคดีหรือตรวจสอบทางตำรวจภูธรภาค 2 ก็ดำเนินไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว

ด้าน พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับ​มูลหลักฐานจากทางกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายชื่อของบุคคลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการการเรียกค่าหัวคิว ซึ่งตำรวจขอเวลาในการสืบสวนสอบข้อเท็จจริงก่อน หากบุคคลใดมีการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคนใน ศบค.เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ส่วน1ในรายชื่ออักษรย่อ “พ” ที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย อ้างว่าเป็นคนใน ศบค.และเกี่ยวข้องกับการเรียกหัวคิวนั้น ทางตำรวจยังไม่ทราบว่าเป็นใครยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้

สำหรับเรื่องดังกล่าว ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตุว่าจากกรณีกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี ออกมาระบุมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบหน่วยงานติดต่อโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยอ้างว่าจะพิจารณาคัดเลือกโรงแรม ให้เป็นสถานที่กักตัวของคนไทยที่กลับจากต่างแดนหรือ State Quarantine แลกกับการหักหัวคิว30-40% จากเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ 1,000 บาท ต่อรายต่อวัน แต่ยังไม่ทันที่จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางโฆษก ศบค.ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการหัวหัวคิวถือเป็นข้อพิรุธอย่างยิ่งและควรต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง