SCC - ถือ

SCC - ถือ

การเติบโตในธุรกิจบรรจุภัณฑ์: การเข้าซื้อและควบรวมกิจการ

SCC อยู่ในขั้นตอนของการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ SOVI Vietnam ซึ่งคาดว่าการเข้าซื้อจะเสร็จสิ้นในสิ้นปีนี้ กำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์น่าจะเพิ่มขึ้น 16% ในปีนี้จากการรวมกำไรเต็มปีจาก Fajar และ Visy และ การเติบโตภายใน (organic growth) 5% ต่อปีตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไปจากการเติบโตของ e-commerce แม้ว่าจะไม่มีการเติบโตในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจเคมีก็ยังเป็นธุรกิจหลักในการผลักดันกำไร เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่Bt350/sh เทียบเท่า 14.3x FY20F PE และให้ 3.5% dividend yield.

 

การเติบโตที่แข็งแกร่งและกำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์

ส่วนของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (SCGP) ที่อยู่ระหว่างขั้นตอน IPO จะช่วยให้กลุ่มสามารถขยายและเสริมธุรกิจปลายน้ำด้วยธุรกิจต้นน้ำอย่างกระดาษบรรจุภัณฑ์เพื่อที่จะเพิ่มอัตรากำไร SCGP มีกำลังการผลิตของกระดาษบรรจุภัณฑ์ต้นน้ำ 4mt แบ่งเป็น 1.8mt ในไทย 500kt ในเวียดนาม 250kt ในฟิลิปปินส์และ1.4mt ในอินโดนิเซีย นอกจากนี้บริษัทยังขยายกำลังการผลิตต้นน้ำ 200kt ในฟิลิปปินส์ และ 400kt ใน อินโดนิเซียซึงจะมีกำหนดแล้วเสร็จใน 2Q21 และ 4Q20 ตามลำดับ โดย SCGP มีกำลังการผลิตเพียง 1mt สำหรับกล่องกระดาษปลายน้ำและได้ขายกระดาษบรรจุภัณฑ์ต้นน้ำที่เหลืออีก 3mt ให้กับบริษัทภายนอกกลุ่ม จนถึงตอนนี้ SCGP ได้รวม 45.7% ของการดำเนินงานในไทย 33.1% ในเวียดนาม 4.9% ในอินโดนิเซียและยังไม่ได้รวมในฟิลิปปินส์เลย ซึ่งหมายถึงยังมีโอกาสในการปรับปรุงกำไรอีกมาก โดย EBITDA margin สำหรับบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ 17% ใน2019 และ 21% ใน1Q20 และเราคาดว่า EBITDA margin จะอยู่ที่ 20-22% ใน2020-22 โดย SCGP มีฐานลูกค้าที่ใหญ่โดยมีมากกว่า 4,000 รายโดย 10 อันดับแรกคิดเป็น 20% ของรายได้

 

การเข้าซื้อกิจการและแนวโน้มการเติบโตของ e-commerce จะเป็นปัจจัยหนุนในการเติบโต

SCGP อยู่ในขั้นตอนของการเข้าซื้อหุ้นของ SOVI Vietnam ซึ่งรายการนี้ต้องการการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของ SOVI ส่วนราคาของการเข้าซื้อนั้นยังไม่แน่ชัดแต่คาดว่าจะสามารถทำรายการเสร็จสิ้นภายในปีนี้ ปัจจุบัน SOVI นั้นเป็นลูกค้าของ SCGP และการเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ SCGP ขยายและรวมกิจการปลายน้ำของกระดาษลูกฟูก (90k tons pa) และบรรจุภัณฑ์ลามิเนต (10k tons pa) เราคาดว่าความต้องการของบรรจุภัณฑ์จะเติบโตมากกว่า GDP ของโลกจากแนวโน้ม e-commerce shopping trend กลยุทธ์ของ SCGP นั้นจะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทั้งในแง่ปริมาณ (ผ่านการเข้าซื้อกิจการ) และ อัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น เราคาดว่ากำไรจากบรรจุภัณฑ์จะเติบโต 16% ในปีนี้จากผลของการรวมกำไรเต็มปีของ Fajar (เริ่มรวมในกรกฏาคม 2019) และ Visy (เริ่มรวมในกันยายน 2019)

   

คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่ Bt350/sh; กำไรที่รวมเข้ามายังน้อย แต่ช่วยสร้าง EBITDA margin ที่ดีให้กับกลุ่ม

แม้ว่าธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะมีส่วน 16% ของกำไรของกลุ่มในปี 2019 (25% ใน 1Q20) เราคาดว่าส่วนกำไรจากบรรจุภัณฑ์จะเติบโต 16% ในปีนี้และ 5% ต่อปีสำหรับการเติบโตปกติตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป การ IPO น่าจะเกิดขึ้นใน 4Q20 หรือต้นปี 2021 เนื่องจากการระงับการเดินทางจาก Covid-19 การ dilution ของ SCC ใน SCGP จะไม่เกิน 30% โดย SCGP จะใช้เงินทีได้จากการ IPO ในการทำ M&A แม้ว่าจะไม่มีการเติบโตในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจเคมีก็ยังเป็นธุรกิจหลักในการผลักดันกำไร เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่Bt350/sh เทียบเท่า 14.3x FY20F PE และให้ 3.5% dividend yield