วัคซีนต้าน Covid-19 คืบหน้า

วัคซีนต้าน Covid-19 คืบหน้า

ความกังวลสหรัฐอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อจีน หากจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่เพื่อควบคุมฮ่องกง

ตลาดหุ้นวานนี้

SET วันก่อนปรับตัวลงปิดที่ 1,320 จุด (+17.01 จุด) หรือ +1.30% ด้วย Volume ซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท จากความคาดหวังศบค.จะผ่อนปรน Lockdown เฟส 3 รวมถึงคาดหวังภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคธุรกิจอื่นๆ หลังกสทช.เตรียมพิจารณาเลื่อนเวลาจ่ายค่าธรรมเนียรายปีให้ผู้ประกอบการ ICT และ TV ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม Prop Energ Trans และ ICT  ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 156 ล้านบาท  , ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 236 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX SET50  4,931 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นบวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,330 – 1,335 จุด ตาม sentiment เชิงบวกความคืบหน้าวัคซีนต้านไวรัส Covid-19 หลังบ.โนวาแวกซ์ (Novavax) ได้เริ่มทำการทดลองทางคลินิกเฟสแรกในการใช้วัคซีน NVX-CoV2373 เพื่อต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเบื้องต้นในเดือนก.ค. ประกอบกับความคาดหวังศบค.จะผ่อนปรนมาตรการ Lockdown เฟส 3 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตาม ความกังวลสหรัฐอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อจีนหากจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่เพื่อควบคุมฮ่องกง ซึ่งอาจจะลามไปสู่การปฏิบัติตามข้อตกลงยุติการค้าเฟสแรกหรือไม่นั้นจะเป็นตัวฉุดให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  (CKP, TASCO, STA, RS, EPG)
  • MAJOR SPA  ได้ sentiment บวกหากศบค.ผ่อนคลาย Lockdown เฟส 3 วันที่ 1 มิ.ย.
  • กลุ่มหุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI Thailand Index รอบใหม่ AWC, BAM, KTC มีผล 29 พ.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้

  • MINT (17.4 25ได้ Sentiment บวกจากภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่วนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศก็มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนด้วยเช่นกันโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมของ NH Hotel ในสเปน ซึ่งล่าสุดรัฐบาลสเปนประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป
  • PTTGC (4450ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ระดับ 28-30$/bbl ในปัจจุบันจะทำให้ธุรกิจโรงกลั่นพลิกมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบแล้วใน 2Q20 นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นยังเป็น Sentiment บวกกับธุรกิจปิโตรฯ เพราะ PTTGC จะได้เปรียบต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งเพราะ PTTGC ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบราคาจะปรับขึ้นช้ากว่านาฟทาซึ่งราคาจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันทันที 

บทวิเคราะห์วันนี้

MINT (ปิด 17.4 ซื้อ/เป้าใหม่ 25 เดิม 32), SCC (ปิด 343 ถือ/เป้า 350)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ยังปรับตัวขึ้น ตอบรับหลายประเทศผ่อนคลายล็อกดาวน์ และเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : แม้วานนี้หลายประเทศจะปิดทำการอาทิ สหรัฐ และ อังกฤษ รวมถึงหลายประเทศในเอเชีย แต่ตลาดส่วนใหญ่ที่ยังเปิดทำการ อาทิ ญี่ปุ่น (+1.73%) และ เยอรมนี (+2.87%)ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี เนื่องจากนักลงทุนตอบรับข่าวรัฐบาลประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และยังเตรียมออกวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากไวรัส Covid-19 ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือมีสัดส่วนเทียบเท่ากับ 40% ของ GDP ญี่ปุ่น ส่วนฝั่งยุโรป อังกฤษ และอีกหลายประเทศ ยังเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส Covid -19 มากขึ้น อาทิ อังกฤษ จะอนุญาติให้เปิดห้าง และศูนย์การค้าตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ขณะเดียวกันรัฐบาลเยอรมนีจะอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 9 พันล้านยูโร (9.8 พันล้านดอลลาร์) หรือราว 3.13 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจให้กับสายการบินลุฟท์ฮันซา
  • (+) กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม : ภาครัฐเตรียมออกมาตรการไทยเที่ยวไทย แจกแพคเกจการท่องเที่ยว ให้ส่วนลดค่าที่พักเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว : รัฐบาลอยู่ระหว่างเตรียมเสนอกรอบการใช้วงเงินกู้ 4 แสนล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท โดย 1 ในโครงการที่ภาครัฐเตรียมผลักดันให้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้คือการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านมาตรการไทยเที่ยวไทย โดยที่ภาครัฐจะจัดทำแพคเกจการท่องเที่ยว หรือ แจกส่วนลดค่าที่พักให้ประมาณ 50-60% เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มผู้มีรายได้นำเงินออกไปใช้จ่ายและไปท่องเที่ยวมากขึ้น หากเป็นจริงจะเป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนรวมถึงแนวโน้มผลประกอบการของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (ERW CENTEL MINT SPA) ซึ่งคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามการออกมาตรการดังกล่าวจะสำเร็จได้แสดงว่าไทยจะต้องควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ได้อย่างเด็ดขาดหากยังมีการแพร่ระบาดทำให้ประชาชนยังตื่นกลัวและออกไปท่องเที่ยวน้อยกว่าที่คาดการณ์กันวัน
  • (+/-) วันนี้ติดตาม ประชุม ครม.คาดพิจารณาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน และพรุ่งนี้ฝ่ายค้านอภิปรายซักฟอก พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท : ประชุม ครม. วันนี้คาดว่าจะเป็นการหารือเพื่อลงมติขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมสิ้นสุด 31 พ.ค.นี้ และเตรียมปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ เป็น 24.00 น. -04.00 น. จากเดิม 23.00 น.-04.00 น. ทั้ง 2 ปัจจัยเรามีมุมมองเป็นกลางซึ่งตลาดรับรู้อยู่แล้วและยังเป็นบวกต่อการควบคุมการระบาดของไวรัส Covid-19 ส่วนวันพรุ่งนี้ถึงวันที่ 31 พ.ค. ฝ่ายค้านจะขึ้นอภิปรายซักฟอกรัฐบาลเกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ปัจจัยนี้เรามีมุมมองเป็นกลางเช่นกันเชื่อว่าภาครัฐน่าจะตอบคำถามและอธิบายวงเงินในการใช้งบประมาณได้ และมองเป็นเรื่องดีที่เราจะได้ทราบรายละเอียดของการใช้เงินเนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่เคยแจงหรือรายละเอียดของการใช้งบประมาณดังกล่าว