มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1328-1360 จุด แต่ต้องระวังราคาบางกลุ่มฟื้นเร็วกว่าพื้นฐาน

มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1328-1360 จุด แต่ต้องระวังราคาบางกลุ่มฟื้นเร็วกว่าพื้นฐาน

ตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปยังอยู่ในกระแสเปิดเศรษฐกิจ

หลังญี่ปุ่นประกาศยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วประเทศ (ซึ่งเราอัพเดตในรายการ UTRADE Morning Call ช่วงเช้าวานนี้) อังกฤษมีแผนเตรียมเปิดเมืองช่วงเดือนหน้า ขณะทีเยอรมันได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ดีดตัวขึ้นในเดือนพ.ค. และความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทั้งนี้คณะกรรมการยุโรปเตรียมเปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปในวันพุธ ทำให้จิตวิทยาการลงทุนโดยรวมยังมีปัจจัยสนับสนุนในช่วงสัปดาห์นี้ ภาพตลาดระยะสั้นไม่มีปัจจัยขนาดใหญ่ใหม่ แต่เป็นการเคลื่อนไหวด้วยประเด็นบวกเฉพาะตัวในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่

กลุ่มท่องเที่ยว – ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญ แต่ในระยะสั้นหุ้นได้อานิสงค์จาก 1) การพิจารณาผ่อนคลายระยะที่ 3 เพิ่มเติม อาจผ่อนคลายการจัดงานที่มีคนจำนวนมาก 2) สศช.ให้ข้อมูลอาจกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการออกคูปองช่วยลดค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว 40-50% ซึ่งน่าจะปลดล็อคราวก.ค.นี้

กลุ่มอาหาร – สถานการณ์โควิดในบราซิลที่เป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ย่ำแย่ลง ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการส่งออกและความเชื่อมั่นของคำสั่งซื้อ ทำให้กลุ่มผู้ผลิตเนื้อสัตว์ไทยมีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติม บวกต่อ CPF, GFPT, TFG

กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง – คาดไม่ได้ผลบวกจากโครงการรถไฟไทย-จีน แต่บวกจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด สศช.เร่งพิจารณาโครงการในงบฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท เน้นเศรษฐกิจรากฐานและชุมชน โดยเตรียมเสนอครม. 7 ก.ค. บวกต่อการเก็งกำไร STEC, CK, PYLON, SEAFCO

เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยประเด็นที่น่าสนใจได้แก่ 1) กลุ่มที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ดี/ดีกว่าอุตสาหกรรม ได้แก่ IVL, SCC, STA, TIP, VRANDA 2) หุ้นกำไรมั่นคง (defensive) GPSC, BCPG, RATCH, BCH, CHG, SSP, SUPER 3) กลุ่มประกันภัย TIP และ THRE 4) กลุ่มการเงินที่ยังไม่แพง BFIT, AMANAH 5)หุ้นเข้า MSCI (29 พ.ค.) ได้แก่ AWC, BAM, KTC ทั้งนี้การเก็งกำไรในกรอบ 1300-1400 จุด ควรคุมความเสี่ยงด้วยการตั้งขาดทุนทุกครั้ง

ภาพรวมกลยุทธ์ หลังสร้างฐานบริเวณ 1280-1320 จุด มีโอกาสเหวี่ยงขึ้น 1350-1360 จุด แต่ต้องเริ่มระวังการเคลื่อนไหวของหุ้นในระยะสั้นที่เริ่มปรับขึ้นเกินกว่าระดับการฟื้นตัวจริงทางเศรษฐกิจ  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  CPF*, BFIT*, SSP*

แนวรับ 1,306 / แนวต้าน : 1,328-1,360 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

 

ประเด็นการลงทุน

WHO เตือนการระบาดระลอกใหม่ – องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนกลุ่มประเทศซึ่งมีอัตราการติดเชื้อ Covid-19 ลดลง อาจเผชิญกับการแพร่ระบาดรอบสองหากเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป

US futures ขึ้นทำ new high รอบ 3 เดือน – US500 futures ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน และปรับขึ้นต่อเช้านี้ รับข่าว Navavax เริ่มทดลองวัคซีนต้าน Covid-19

BANPU มองแนวโน้มราคาถ่านหินระยะสั้นยังคงอยู่ระดับต่ำ แม้ปรับขึ้นมาบ้างจากการลดกำลังการผลิตของซัพพลายเออร์ ประกอบกับ สถานการณ์ Covid-19 ที่ส่งผลกระทบให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงลดลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาถ่านหินพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

THAI ยื่นฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลางวันนี้ ขณะที่ในการประชุมคณะกรรมการพิเศษ มีมติแต่งตั้งกรรมการใหม่ 4 ท่าน ได้แก่ ไพรินทร์-ปิยสวัสดิ์-บุญทักษ์-พีระพันธุ์ แม้เป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นฟูธุรกิจ แต่ด้วยความเสี่ยงของการลดทุนจากแผนฟื้นฟูกิจการในอนาคต ซึ่งจะกระทบต่อมูลค่าหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เราไม่แนะนำการเก็งกำไร

ประเด็นติดตาม: 26 พ.ค. – US consumer confidence/ 27 พ.ค. – TH Industrial production, ยุโรปพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ/ 28 พ.ค. – US GDP 1Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)