วัคซีนมีความคืบหน้า

วัคซีนมีความคืบหน้า

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นแรง คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

โดยเมื่อวานนี้ ญี่ปุ่นได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน ประกอบกับภายในประเทศยังลุ้นการปลดล็อกดาวน์เฟส 3 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,320.98 จุด (+17.01 จุด) Volume 5.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -156.03 ลบ. TFEX Net +4,931 สัญญา ตราสารหนี้ -236 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+/-ตลาดเงิน หุ้น น้ำมัน ทองคำที่นิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 25 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day

+ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นขานรับข่าวโนวาแวกซ์ (Novavax) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐเริ่มทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เฟสแรก คาดรู้ผลเดือนก.ค.

+อังกฤษไฟเขียวเปิดร้านค้า-ห้างสรรพสินค้าเดือนหน้า ตามแผนคลายล็อกดาวน์เฟสสอง

+แพทย์สหรัฐยกย่องประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด

+สภาพัฒน์ชงแพคเกจท่องเที่ยวหักลดหย่อนภาษีกระตุ้นศก.ในช่วงไตรมาส 3

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 4.20 จุด +0.15% เช้าเปิดบวก 9.93 จุด

+ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 353.49 จุด +1.73% เช้าปิดพุ่ง 186.31 จุด

-ทองคำขึ้นสวนทางเงินดอลลาร์อ่อนหลังมีข่าวความคืบหน้าวัคซีนรักษา COVID-19

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.95 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.96 บาท/US

*จับตาการประชุม ครม.  ส่วนสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากข่าวหลังจากบริษัทพัฒนาวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองทางคลินิกเฟสแรกในการใช้วัคซีนเพื่อต้านไวรัสโควิด-19 ประกอบกับปัจจัยในประเทศ ททท. เตรียมหารือ กระทรวงการคลัง เตรียมออกแพคเกจกระตุ้นเที่ยวในประเทศ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,310-1,335 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

SQ (มุมมองบวกต่อการเติบโตจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว)

รายงานกำไร 1Q63 ที่ 102 ลบ. +10%YoY แต่ -18%QoQ โดยรายได้ปรับตัวลง 9%QoQ สู่ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากงานที่แม่เมาะ 7 ได้ทำงานครบตามสัญญาในเดือนกุมภาพันธ์ 63 ทำให้รายได้ลดลง 48%QoQ สู่ 224 ลบ.ขณะที่รายได้จากแม่เมาะ 8 เพิ่มขึ้น 19%QoQ สู่ 768 ลบ.จากการใช้สายพานลำเลียงได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และรายได้จากเหมืองหงสาทรงตัวที่ระดับ 300 ลบ. ด้านอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ระดับ 22% จากไตรมาสก่อนหน้าจากเหมืองแม่เมาะ 8 ใช้งานสายพานลำเลียงได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวขึ้น 34%QoQ สู่ 109 ลบ.เพราะการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ด้อยค่า  26 ลบ.

ความเห็น แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ฟื้นตัวเมื่อเทียบ YoY จากฐานที่ต่ำเพียง 1.11 ล้านบาทในปี 62 ซึ่งมีผลการ ดำเนินงานขาดทุน 266 ล้านบาทใน 3Q62 แนวโน้ม 2Q63 แม้เป็นช่วง low season แต่คาดจะดีกว่า 2Q62 ที่มีก็ไร 58 ล้านบาทจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ดีกว่าปีก่อน และการเคลื่อ็นย้ายอุปกรณ์จากแม่เมาะ 7 ที่ทำงานครบแล้วใน Q1 มาทำต่อที่แม่เมาะ 8 ซึ่งจะเริ่มผลิตใน Q2 ทั้งนี้ EBITDA margin ในไตรมาสแรกอยู่ที่ 35% ดีกว่าระดับ 33% ในปี 62 ขณะที่ผู้บริหารคาดจะปรับดีขึ้นสู่ระดับ 34% ในปีนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานที่ปรับดีขึ้นในปีนี้ทำให้ forward PE ลดลงจาก historical  PE ที่สูงถึง 212 เท่า

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่จะเข้าคำนวณ MSCI Global Standard (AWC BAM KTC) มีผล 29 พ.ค. 
  • หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ดี (WICE TASCO CPF)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย (BAM MTC SAWAD SINGER)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากรัฐออกแพคเกจกระตุ้นเที่ยวในประเทศ (ERW CENTEL AOT AAV BA)

หุ้นมีข่าว   

(+) BANPU (Bloomberg Consensus 7.59 บาท) คาดราคาถ่านหินพ้นจุดต่ำสุดแล้ว คาดช่วงที่เหลือปีนี้ราคาเริ่มขยับขึ้น คาดระยะยาวมีโอกาสกลับมายืน 70-80 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วน BPP คงเป้ากำลังผลิต 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 68 เดินหน้าศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซฯในสหรัฐฯ และขยายลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามเพิ่ม (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) TU (Bloomberg Consensus 15.42 บาท)   แจ้งรอประเมินความเสียหาย หลังโรงงานแปรรูปล็อบสเตอร์ในแคนาดาไฟไหม้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 63 ลั่นมีสัดส่วนรายได้แค่ 1.9% ของรายได้รวม พร้อมย้ำมีการทำประกันอุบัติภัยครอบคลุมความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MCOT (ราคาเหมาะสม 6.80 บาท) กสทช.ประชุมบอร์ดวันพรุ่งนี้ ลุ้นเคาะวงเงินเยียวยา MCOT พร้อมพิจารณาขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี ฟาก เขมทัตต์ชี้ไม่มีสิทธิก้าวล่วง เป็นหน้าที่กสทช.แบ่งเงินเยียวยา  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) RATCH (Bloomberg Consensus 74.41 บาท)   เจาะฐานเวียดนาม รุกพลังงานลม 29.70 เมกะวัตต์ คาด COD เดือนกันยายน 2564 ดันกำลังการผลิตปีนี้ชน 800 เมกะวัตต์ และเพิ่มเป็น 1 หมื่นเมกะวัตต์ ในปี 2566 ฟากโบรกส่องอนาคตโตแกร่ง จากโครงการ IPP พร้อมมีอัพไซด์จากใบอนุญาต LNG Shipper ของโรงไฟฟ้า IPP หินกอง ผลตอบแทนน่าสนใจ ชี้ราคาเหมาะสม 76 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPF (Bloomberg Consensus 36.25 บาท) โบรกคาดผลงาน CPF ครึ่งปีหลัง 2563 ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาหมู-ไก่ ในตลาดต่างแดนปรับตัวสูงหนุนกำไร ส่วนแผนเจรจาซื้อ Tesco เล็งไตรมาส 4/2563 ปิดดีล-ยืนยันสภาพคล่องแกร่ง เคาะเป้าหมาย 36 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) WHAUP (Bloomberg Consensus 6.38 บาททุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท ลุยโปรเจกต์ Reclaimed Water ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) และนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) เพื่อนำน้ำที่ใช้แล้วมาบำบัด และนำกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการและต่อยอดรายได้ให้บริษัทในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)