บันทึกบทเรียน 'บริหารวิกฤติ' โควิด-19

บันทึกบทเรียน 'บริหารวิกฤติ' โควิด-19

วิกฤติโควิด-19 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจน้อยใหญ่แล้ว ยังส่งแรงสะเทือนไปถึงการบริหารกระแสเงินสดและหนี้สินขององค์กรด้วย ซึ่งสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ คือการตัดสินใจที่รวดเร็ว รวมถึงกระทบต่อพนักงานและลูกค้าให้น้อยที่สุด

จากความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของประชาชน การจำกัดพื้นที่และการเดินทางเพื่อควบคุมโรคระบาดโดยภาครัฐ ส่งผลโดยตรงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การขาดความต่อเนื่องของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Disruption) กระทบต่อเนื่องสู่ภาคการขายสินค้าและให้บริการแก่ลูกค้า

สึนามิลูกนี้!! กระทบภาคธุรกิจน้อยใหญ่โดนซัดกันถ้วนทั่ว! ส่งผลต่อการบริหารกระแสเงินสดและหนี้สินขององค์กร โดยเฉพาะธุรกิจขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจครอบครัว  สิ่งสำคัญของการบริหารจัดการในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้คือการตัดสินใจที่รวดเร็ว กระทบต่อพนักงาน ลูกค้า ให้น้อยที่สุด

แนวทางการดำเนินงานที่สำคัญในช่วงเวลาวิกฤติตามความเร่งด่วน ระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว ประกอบด้วย

  • การดำเนินการปัญหาเร่งด่วนระยะสั้น

1.ปรับตัวให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน คงประสิทธิภาพการทำงาน และยังติดต่อลูกค้าได้อย่างไร?

- เคลื่อนย้ายพนักงานเพื่อตอบสนองต่อวิกฤติการระบาด กำหนดแนวทางในการ Work From Home เน้นความปลอดภัยของพนักงานเป็นหัวใจหลัก

- นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน เพื่อให้พนักงานทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- แบ่งพนักงานเป็น 2 กลุ่ม ที่ทำงานทดแทนหรือใกล้เคียงกัน หากมีพนักงานคนหนึ่งในกลุ่มมีอาการหรือติดโควิด ก็จำเป็นต้องให้พนักงานในกลุ่มนั้นทุกคนกักตัว 14 วัน พนักงานอีกกลุ่มมาทำงานทดแทน การจัดพนักงานเป็น 2-3 กลุ่มเหมาะกับงานในคลังสินค้าที่ต้องจัดหาเตรียมส่งของทุกวันตามออเดอร์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการต้องหยุดส่งมอบสินค้า De-risk Supply Chain

- พิจารณามาตรการช่วยเหลือของภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ ที่จะได้รับแก่พนักงานตามที่ควร

- ประเมินสถานการณ์ ความเสี่ยง และผลกระทบที่มีต่อธุรกิจจากเศรษฐกิจหยุดชะงัก โดยกำหนดการประชุมระดับ Top Executive ทุกวันเพื่อประเมินสถานการณ์และแก้ไขปัญหาวันต่อวันให้ทันกาล

- สื่อสารให้มากเพื่อให้เกิดความเข้าใจและความโปร่งใส

- ทบทวน Business Discontinuity Plan (BCP) แผนความไม่ต่อเนื่องทางธุรกิจ และปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด

2.เฝ้าระวังเรื่องผลกำไรขาดทุน (P&L) และสภาพคล่องทางการเงิน

- จัดทำ Scenario สถานการณ์ภาพรวมของตลาด และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการลดลงทางรายได้และผลกำไรขาดทุน

- จัดทำ Scenario สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด Super Worst Case เช่น หากรายได้หดหายมากกว่า 70% มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดยาวจนถึงสิ้นปี สภาพคล่องทางการเงินจะเป็นอย่างไร เรายังคงรักษาสถานภาพของพนักงานได้หรือไม่

- ประเมินสถานการณ์ยอดขายและสต็อกสินค้า “สัปดาห์ต่อสัปดาห์” อย่างใกล้ชิด

- สื่อสารกับลูกค้า “ท็อป 20” อย่างใกล้ชิด ถึงความต้องการและการส่งมอบ

- บริหารค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด งบประมาณที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ อาทิ งบการตลาด เพราะ ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมากระตุ้นดีมานด์ ก็ควรหยุดทันที

- วางแผนสำหรับการลดต้นทุนที่เร่งด่วนสำหรับการรักษารายได้

  • ดำเนินการปัญหาเร่งด่วนระยะกลาง

- จัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ สำหรับการเติบโตในตอนนี้และอนาคตของบริษัท รวมถึงการเข้าสู่ช่องทางออนไลน์และช่องทางอื่นๆ

- การสร้างช่องทางดิจิทัล (Digital Channel) เปลี่ยนพฤติกรรมคนให้มาติดตามผ่านทางช่องทางดิจิทัล เพื่อป้องกันรายได้ และต้องปรับแผนบ่อยขึ้น

- จัดทำแผนโครงสร้างต้นทุนในอนาคต สำหรับการนำบริษัทเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น และเตรียมพร้อมต่อวิกฤติที่มากขึ้น

- สร้างแผนปฏิบัติการฉุกเฉินสำหรับทุกๆ ด้านของธุรกิจ

  • ดำเนินการปัญหาเร่งด่วนระยะยาว 

ระยะยาว ไม่ใช่แค่วิธีการเชิงรับ แต่ต้องเตรียมพร้อมด้วยวิธีการเชิงรุก 

- คิดค้นกลยุทธ์ที่จะทำให้บริษัทของคุณนั้นทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งและขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในช่วงเวลาวิกฤติและอนาคต 

- เตรียมวิธีการบรรเทาผลกระทบ สำหรับการถดถอยลงของรายได้หลัก

- เตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาสู่สภาวะปกติ

- วางแผนและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะการเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่มากขึ้นกว่าเดิม

- มีบริการใหม่ๆ ตอบโจทย์โลกคนที่ไม่ออกจากบ้าน และเมื่อทุกอย่างกลับมาราบรื่นจะดึงลูกค้ากลับมาได้อย่างไร

- สร้างเสถียรภาพในการดำเนินงาน สำหรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่จะกลายมาเป็นสถานการณ์ปกติใหม่ในอนาคต

- สร้างเสถียรภาพของห่วงโซ่สินค้า สำหรับการถดถอยทางภูมิศาสตร์และแรงงาน เช่น การสร้างความมั่นคงในขั้นตอนการผลิตและการแจกจ่ายสินค้า

เราไม่สามารถทำตัวเหมือนกับว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป เราจะอยู่ในกลุ่มที่คว้าโอกาสของสถานการณ์ตอนนี้! เพราะทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส