"Media" sector (25 พ.ค.63)

"Media" sector (25 พ.ค.63)

ยังไม่พ้นขวากหนาม

Event

สรุปผลประกอบการ 1Q63 และแนวโน้มปี 2563-64

lmpact

หุ้นกลุ่มสื่อที่เราศึกษาอยู่มีผลขาดทุนสุทธิรวม 874 ล้านบาทใน 1Q63

หุ้นกลุ่มสื่อที่เราศึกษาอยู่ ซึ่งได้แก่ บมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC.BK/BEC TB)* บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO.BK/MONO TB) บมจ. เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WORK.BK/WORK TB) บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป (MAJOR.BK/MAJOR TB)* มีผลขาดทุนสุทธิรวม 874 ล้านบาทใน 1Q63 จากที่มีกำไรสุทธิ 39 ล้านบาทใน 1Q62 และขาดทุนสุทธิ 257 ล้านบาทใน 4Q62 ทั้งนี้ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อที่เราศึกษาใน 1Q63 ดังกล่าว ยังไม่รวมผลการดำเนินงานของ บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB.BK/PLANB TB)* ซึ่งเลื่อนประกาศผลประกอบการ 1Q63 ไปสิ้นเดือนมิถุนายน 2563

เม็ดเงินโฆษณาเดือนเมษายน 2563 ลดลง 29% YoY และยังคงกดดันหุ้นกลุ่มสื่อต่อไป

ยอดการใช้สื่อโฆษณา (ไม่รวมสื่อดิจิตอล) ในเดือนเมษายน 2563 ลดลงมาที่ 6.2 พันล้านบาท (-29%MoM, -29% YoY) จากการชะลอตัวในทุกสื่อ โดยกลุ่มที่ลดลงมากที่สุดคือโรงภาพยนตร์ ซึ่งไม่มียอดโฆษณาเลยในเดือนเมษายน 2563 (-100% MoM, -100% YoY) เพราะโรงภาพยนตร์ทุกแห่งปิดบริการ
มาตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 ในขณะเดียวกันสื่อที่ถูกกระทบน้อยที่สุดในเดือนเมษายน 2563 คือสื่อนอกบ้าน (สื่อกลางแจ้ง/ขนส่งมวลชน และสื่อในห้างฯ) ซึ่งลดลงเหลือ 948 ล้านบาท (-17% MoM, -18% YoY) ทั้งนี้ยอดโฆษณาบนสื่อทีวีซึ่งเป็นสื่อหลักของการใช้เม็ดเงินโฆษณาของไทย ลดลงเหลือ 4.2 พันล้านบาท (-32% MoM, -29% YoY) และเป็นสาเหตุหลักที่ฉุดธุรกิจโฆษณาโดยรวมของไทยในเดือนเมษายน 2563

คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาโดยในปี 2563 จะลดลง 15% และกลับมาโตได้ 2% ในปี 2564

เมื่ออิงประมาณการ GDP ปี 2563 ของ KGI ที่คาดว่าจะหดตัว 8.4% บวกกับผลกระทบของ COVID-19 ที่รุนแรงกว่าคาดใน 4M63 ทำให้เราคาดว่ายอดโฆษณารวมในปี 2563 จะลดง 15% YoY เนื่องจากคาดว่ายอดโฆษณา (ไม่รวมสื่อดิจิตอล) จะลดลง 21% ในขณะที่คาดว่ายอดโฆษณาบนสื่อดิจิตอลจะเพิ่มขึ้น 15% YoY สำหรับในปี 2564 เราคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมจะฟื้นตัวขึ้น 2% (คาดยอดโฆษณาที่ไม่รวมสื่อดิจิตอลจะหดตัว 2% YoY ขณะที่โฆษณาบนสื่อดิจิตอลจะยังโตได้ถึง 15% YoY)

หุ้นกลุ่มสื่อที่เราศึกษาอยู่น่าจะมีผลขาดทุนในปี 2563

เราคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาที่หดตัวในปี 2563 จะฉุดให้ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อที่เราศึกษาอยู่พลิกมาเป็นขาดทุนสุทธิ 779 ล้านบาทในปี 2563 จากที่เคยมีกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาทในปีก่อน โดยเราคาดว่าผลประกอบการของ MAJOR จะชะลอตัวลงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลประกอบการของหุ้น
กลุ่มสื่อจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2564 จากผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้นของ MAJOR เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง และมีโปรแกรมหนังเด็ดที่ถูกเลื่อนจากปี 2563 มาลงโรงฉายในปี 2564 อย่างเช่น Fast and Furious 9 บวกกับผลกำไรของ PLANB ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการรับรู้รายได้จากจอดิจิตอลในสาขาร้าน 7-Eleven เต็มปี และรายได้ใหม่จากงานโอลิมปิก โตเกียว

Valuation & Action

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มสื่อที่ “น้อยกว่าตลาด”

Risks

ยอดโฆษณาโตต่ำกว่าที่คาดไว้