background-default

วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม 2567

translatetranslate

'เพื่อไทย' ชี้ขยาย 'พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ' ทำลายเศรษฐกิจรากหญ้า

'เพื่อไทย' ชี้ขยาย 'พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ' ทำลายเศรษฐกิจรากหญ้า

"เพื่อไทย" ชี้ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำลายเศรษฐกิจรากหญ้า อัดรัฐสร้างความกลัวให้ประชาชนหวังคุมอำนาจยาว

นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า  จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับเดือดร้อน ไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้  แม้รัฐบาลจะคลายล็อก แต่ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้เช่นเดิม เพราะรัฐบาลสร้างความกลัวให้กับประชาชน ออกมาขู่ประชาชนผ่านหน่วยงานของรัฐถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่หมดไป  การทำงานของรัฐบาลเพื่อเป้าหมายในการขยายความหวาดกลัวให้มากขึ้น โดยมีเป้าประสงค์คือ หวังคุมอำนาจกดหัวประชาชน ไปอีกนาน

 

          จากสถานการณ์ในปัจจุบันประชาชนกลัวอดตายมากกว่ากลัวไวรัสโควิด-19  เพราะหากอยู่เฉยไม่ให้ทำอะไรเลยก็ไม่มีรายได้มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง จุนเจือครอบครัว  เด็กเล็กไม่มีนมกินเพราะแม่ไม่มีเงินซื้อนม ผู้มีอำนาจไม่เคยลงไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐมากแค่ไหน ในขณะเดียวกันการเยียวยาก็ไม่ทั่วถึง คนที่เข้าถึงเทคโนโลยีเท่านั้นที่จะได้รับการเยียวยา ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผิดมาตั้งแต่ต้น เพราะสุดท้ายผลที่ออกมาคือคนไม่เดือดร้อนได้รับการเยียวยา การแต่คนที่เดือดร้อนจริงๆ กลับไม่ได้รับการเยียวยา การทำงานของรัฐบาลสร้างความเหลื่อมล้ำในหมู่ประชาชน ทั้งๆ ที่การเยียวยาประชาชนต้องไม่มีเงื่อนไข ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงการเยียวยา และเพียงพอต่อการดำรงชีพ

นายสุรชาติ กล่าวด้วยว่า การขยายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาลทำลายระบบธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขายอาหารริมทางเดินในช่วงเวลากลางคืน พ่อค้า-แม่ค้าไม่สามารถขายสินค้าได้ รัฐกำลังทำลายวัฒนธรรมและทำลายวิถีชีวิตของประชาชน แนะนำว่าเมื่อรัฐดูแลประชาชนได้ไม่ดีพอ  ก็ควรปล่อยให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ หรือ ออกมาตรการและวิธีปฎิบัติตนให้กับประชาชน ในช่วงที่ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ รัฐไม่ควรจำกัดสิทธิเสรีภาพในการทำมาหากินของประชาชน ควรเปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถทำมาหากินเพื่อดำรงชีพได้ ดีกว่ามารอความช่วยจากรัฐบาลที่ไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียม