ดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบแคบวิตกตึงเครียดสหรัฐ-จีน

ดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบแคบวิตกตึงเครียดสหรัฐ-จีน

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันศุกร์ (22พ.ค.)ปรับตัวร่วงลงเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 8.96 จุด หรือ 0.04 % ปิดที่ 24,465.16 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 6.94 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 2,955.45 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 39.71 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 9,324.59 จุด

นายหวัง เฉิน รองประธานคณะกรรมาธิการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) เสนอกฎหมายใหม่ที่ระบุให้ฮ่องกงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโดยเร็ว ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับย่อซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง ซึ่งกฎหมายใหม่ดังกล่าวจะให้อำนาจรัฐสภาของจีนในการจัดทำกรอบกฎหมาย และบังคับใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อป้องกันและลงโทษการกบฎ การก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน และการแทรกแซงของต่างชาติ หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ

การดำเนินการดังกล่าวของจีนอาจสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะตอบโต้จีน หากจีนใช้มาตรการเพื่อจัดการกับผู้ประท้วง และจำกัดการเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตยในฮ่องกง

ด้านวุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ผ่านร่างกฎหมาย “Holding Foreign Companies Accountable Act” ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนได้บดบังข่าวดีเกี่ยวกับความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

ราคาหุ้นโมเดอร์นาพุ่งขึ้น 3% ในวันนี้ หลังจากที่นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า วัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นามีผลการทดลองที่น่าพึงพอใจ

นอกจากนี้ นายแพทย์ฟอซี ยังกล่าวว่า สหรัฐจะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในเดือนธ.ค.นี้

“ผมคิดว่าหากเราไม่พบกับอุปสรรคที่อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ เราก็จะสามารถแจกจ่ายวัคซีนภายในสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า” นายแพทย์ ฟอซีกล่าว