หุ้นไทยเสี่ยง 'พักฐาน' จับตา 'สหรัฐ-จีน' ขัดแย้ง

หุ้นไทยเสี่ยง 'พักฐาน' จับตา 'สหรัฐ-จีน' ขัดแย้ง

สัปดาห์นี้ “เงินบาทแข็งค่า” เมื่อเทียบกับดอลลาร์ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว เช่นเดียวกับที่ “เงินหยวน” ของจีนที่อ่อนค่าต่อเนื่อง หลังบรรยากาศความขัดแย้งของสหรัฐกับจีนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

สำหรับ “เงินยูโร” แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าประเทศในยุโรปจะสามารถเห็นพ้องกัน ในการออกมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้

สำหรับในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า  “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย” คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.70-32.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยสัปดาห์หน้าจะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของเดือนเม.ย.ของหลายประเทศเช่น ตัวเลขการผลิต และการค้าปลีกของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ตัวเลขรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลในสหรัฐ เป็นต้น ขณะที่ประเทศไทย ในสัปดาห์หน้าธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท.จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของเดือนเม.ย.

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 พ.ค.) ปิดการซื้อขายที่ 1,303.97 จุด ลดลง 16.72 จุด หรือ 1.27%  มูลค่าการซื้อขาย 64,469.56 ล้านบาท  “บล.กสิกรไทย” ระบุแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ดัชนีฯมีโอกาสปรับฐานลงต่อ  เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจย่ำแย่ลง ก่อนที่จะถึงช่วงการเลือกตั้งสหรัฐในเดือนพ.ย.2563  ประกอบกับคาดว่าจะมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากดัชนีฯปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้านี้ โดยประเมินกรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ 1,250-1,330 จุด

ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,738.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 26,150 บาทต่อบาททองคำ “วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล” ระบุว่า นักลงทุนควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ เนื่องจากปริมาณการซื้อขายทองคำตลาดโลกอาจเบาบางลงในวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.นี้  เนื่องจากตลาดสหรัฐจะปิดทำการในวันทหารผ่านศึก สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สามารถหาจังหวะเก็งกําไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยหาจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,720-1,716 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรหากดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซน 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,716 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนําให้ชะลอการเข้าซื้อออกไป