'ศุภาลัย' เคลียร์ปมเก็บหุ้น 'มั่นคง'

'ศุภาลัย' เคลียร์ปมเก็บหุ้น 'มั่นคง'

“ประทีป ตั้งมติธรรม” เคลียร์ประเด็นเก็บหุ้น “มั่นคงเคหะการ” เข้าพอร์ตเพิ่ม แจงแค่ซื้อถัวเฉลี่ยหลังราคาร่วงแรง ยืนยันไม่มีเจตนาทำ “เทนเดอร์ออฟเฟอร์” รอบสอง มั่นใจสภาพคล่องบริษัทปึ๊ก ไร้ปัญหา พร้อมประเมินหลังจบโควิด ยอดขายกลับสู่ปกติ

วานนี้ (22 พ.ค.) บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SPM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI แจ้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถึงการได้ซื้อมาในหุ้นของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2563 เพิ่มเติม ซึ่งส่งผลให้หลักทรัพย์ที่ได้มาเป็นจำนวน 51,385,420 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.7% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ขณะที่จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาของกลุ่มมีจำนวน 54,879,060 หุ้น หรือคิดเป็น 5.02% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่าตามมาว่า “กลุ่มศุภาลัย” อาจต้องการเข้าคุมบังเหียนใน MK อีกครั้งหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2561 กลุ่มศุภาลัยได้เคยส่งบริษัทย่อยดังกล่าวเข้ามาทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจ (Voluntary TenderOffer) ของหุ้น MK ครั้งหนึ่งแล้ว 

แต่รอบนั้นต้องผิดหวัง เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ MK อย่างกลุ่มฟินันซ่าไม่เล่นด้วย และมีนักลงทุนนำหุ้นมาเสนอขายเพียงจำนวน 3,000,900 หุ้น หรือคิดเป็น 0.30% ของหุ้นทั้งหมดของ MK เท่านั้น

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI และอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ MK ออกมาเปิดใจถึงเรื่องการซื้อหุ้น MK รอบนี้ว่าเป็นเพียงการซื้อถัวเฉลี่ยหุ้นเข้ามาเพิ่มเติมเท่านั้น ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรพิเศษ เนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงจึงทยอยซื้อหุ้นในแต่ละรอบเข้ามา โดยใช้เงินหลักไม่กี่แสนบาทและส่วนใหญ่ไม่ถึงหลักล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ต้องรายงานก.ล.ต.น่าจะเป็นเพราะสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มที่ข้ามเส้นเกินระดับ 5% 

โดยเจ้าตัวยอมรับว่าไม่ได้มีแผนที่จะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น MK อีกรอบแน่นอน ซึ่งการทำรายการดีลครั้งก่อนเป็นเพราะมีคนเชียร์เท่านั้น ซึ่งส่วนตัวก็ค่อนข้างเฉยๆ เพราะได้หรือไม่ได้หุ้นก็ไม่เป็นไร ขณะที่มุมมองการเข้ามาลงทุนในหุ้น MK ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงการลงทุนเท่านั้น ซี่งเป็นเพียงผู้ถือหุ้นส่วนน้อยและไม่ได้มีการส่งตัวแทนไปนั่งเป็นกรรมการบริษัท

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการเข้ามาลงทุนในหุ้น MK นั้น เพราะความตั้งใจเดิมของกลุ่มบริษัทศุภาลัยมีนโยบายที่จะทำธุรกิจด้านคลังสินค้าให้เช่าและสนามกอล์ฟด้วย ซึ่งเมื่อเห็นโอกาสว่าบริษัท MK มีการทำธุรกิจพวกนี้อยู่แล้วจึงเข้ามาลงทุน เพราะจะได้ไม่ต้องไปเริ่มลงทุนด้วยตัวเอง

ขณะที่ยืนยันว่าสภาพคล่องของบริษัทไม่มีปัญหา เพราะบริษัทมีการบริหารจัดการที่ดีและเพิ่งเพิ่มทุนไปในปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันบริษัทยังคงเดินหน้าซื้อที่ดินอย่างต่อเนื่องไม่มีการหยุดรับซื้อ ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้บริษัททำได้อย่างต่อเนื่องตามปกติไม่มีการหยุด เพราะมีทีมงานที่ดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ 

นอกจากนี้ในส่วนของมุมมองต่อภาคธุรกิจอสังหาฯนั้น แม้ระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวเพื่อรอดูสถานการณ์ไปบ้าง แต่เชื่อว่าอสังหาฯเป็นปัจจัยสี่ที่คนยังต้องการที่อยู่อาศัย จึงคาดว่ายอดขายจะกลับมาเป็นปกติ