'ลอรีอัล' วางหมากรบครึ่งปีหลัง ลุยบิวตี้เทครับนิวนอร์มอล

'ลอรีอัล' วางหมากรบครึ่งปีหลัง ลุยบิวตี้เทครับนิวนอร์มอล

โควิด-19 "ล็อกดาวน์" กระทบธุรกิจ แต่ไม่สามารถเบรกการทำตลาดความงาม "ลอรีอัล" ลุย E-Beauty ผลัก BA ค้าขาย ให้บริการลูกค้าออนไลน์ ปูพรมอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ กวาดยอดขาย เม.ย.-พ.ค. โต 100% ครึ่งหลังงัด "บิวตี้ เทค" อาวุธต่อกรวิกฤติ

ลอรีอัล” เป็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจความงามโลก มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ เช่น การ์นิเย่ เมย์เบลลีน จิออจิโอ อาร์มานี่ ลาโรสซ-โพเซย์ อีฟ แซงต์ โลรองต์ฯ ครอบคลุมหมวดดูแลผิวพรรณ ดูแลเส้นผม สีสัน (Make up) เจาะผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับกว้าง ไปจนถึงระดับหรูหรา

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ตลาดความงาม ในไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2562 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.18 แสนล้านบาท เติบโต 6.7% จากปี 2561 และโตราว “เท่าตัว” เทียบปี 2555 ตลาดมีมูลค่า 1.17 แสนล้านบาท โดยปี 2562 ตลาดความงามแบ่งเป็นเซ็กเมนต์ต่างๆ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณใหญ่ สัดส่วน 42% มูลค่า 9.19 หมื่นล้านบาท ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 15% มูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท เมกอัพ 12% มูลค่า 2.68 หมื่นล้านบาท น้ำหอม 5% ผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย 14% เป็นต้น

159015699215

มูลค่าตลาดความงามตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

 “ปีที่ผ่านมาตลาดความงามทั่วโลกเติบโต 5% ส่วนไทยเติบโต 6.7% สูงกว่าตลาด และมองลึกถึงตลาดเอเชียแปฟิซิก ซึ่งเป็นตลาดใหม่ของลอรีอัล หลายประเทศเติบโตสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นจีนอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์  ซึ่งภูมิภาคนี้สร้างยอดขายเป็นสัดส่วนอันดับ 1 ให้กับลอรีอัลกรุ๊ป”    อินเนส   คาลไดรา  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพตลาด

ทว่า จากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ยอมรับว่าส่งผลกระทบ โดยก่อนหน้านี้เธอได้ประเมินยอดขายเดือนเม..โดยรวมจะอยู่ในแดนลบเพราะหน้าร้านต่างๆปิดให้บริการ แต่ด้วยการปรับตัว วางกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ มุ่งออนไลน์เต็มสูบ ผลักดันผู้ให้คำปรึกษาความงาม(BA) ประจำเคาน์เตอร์ต่างๆ ขยับทักษะให้บริการแก่ลูกค้าทั้งโทร ทั้งขายบริหารต่างๆผ่านออนไลน์เป็น E-Beauty Advisor เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและทันโลกตลอดจนการนำสินค้า 17 แบรนด์ ปูพรมทำตลาดผ่านออนไลน์ 17 แพลตฟอร์ม ช่วยกู้สถานการณ์ค้าขายเดือนเม.. และพ..ได้อย่างดี เพราะช่องทางอีคอมเมิร์ซเติบโตหลัก 100%

นอกจากนี้ พันธกิจสำคัญในการมุ่งขึ้นเบอร์1” แซงคู่แข่งสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่ครองแชมป์ความงามอยู่ ทำให้ที่ผ่านมาการทำตลาดของลอรีอัลเกิดขึ้นอย่างเข้มข้น และผลลัพธ์คือ กลุ่มเมกอัพสามารถก้าวขึ้นเป็น ผู้นำตลาด” ได้เป็นครั้งแรก จากปัจจุบันกลุ่มสกินแคร์ อย่างการ์นิเย่ รั้งเบอร์ 1 เรียบร้อยแล้ว

159015709494

กลุ่มสินค้าสีสัน(Make up)ขึ้นเป็น "ผู้นำตลาด"

ปี 2563 ปัจจัยลบรอบด้าน และเป็นปีโหดหินของอินเนสที่ทำงานมา 19 ปี เมื่อเป้าหมายใหญ่คือการครองบัลลังก์ธุรกิจความงามในไทย แต่เจอพิษโควิด ทำให้ครึ่งปีหลัง ต้องปรับหมากรบระลอกใหญ่ โดยการออกสินค้าใหม่จะเน้นไปที่กลุ่มสกินแคร์มากขึ้น เพราะ New Normal ของความงามจะอยู่ภายใต้หน้ากาก การอยู่บ้าน ทำให้ผู้บริโภคต้องดูแลผิวพรรณมากขึ้น สินค้าเมกอัพจากปกติที่ โตเร็วและค่อนข้าง Dynamic เมื่อสวยใต้หน้ากาก การแต่งตาให้โดดเด่น จึงเป็นเทรนด์มาแรงขึ้น ส่วนลิปสติก ที่อาจดูแผ่ว แต่เชื่อว่าผู้บริโภคต้องถอดหน้ากากบ้าง ทำให้ริมฝีปากต้องสวยมีสีสันเช่นกัน

อีกกลุ่มที่ต้องเร่งเข็นทำตลาด คือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เพราะช่วงโควิด พบว่าผู้บริโภคใส่ใจการดูแลเส้นผมมากขึ้น เกมรบจึงเกิดทั้งเจาะลูกค้า และร้านซาลอน โดยส่งเคเรสตาส บุกหน้าร้านออนไลน์ลาซาด้าปั๊มการเติบโต รวมถึงกลุ่มสินค้าระดับบน เพราะมีการเติบโตดี 

สินค้าความงาม ผู้บริโภคนิยมลองของจริง แต่โควิดคือปฏิกิริยาเร่งให้การขยายบิวตี้เทคการแต่งหน้าผ่านดิจิทัล โมดิเฟส”(ModiFace) ของลอรีอัล ต้องขยายให้มากขึ้น 11 แบรนด์ จาก 22 แบรนด์ที่ทำตลาดในไทย รองรับเทรนด์การสัมผัสแต่งหน้าลดลง(Touchless Beauty)แต่ยังคงสร้างประสบการณ์ด้านความงามเช่นเดิม

159015731974

กลยุทธ์หลักในการทำตลาดยังมุ่งบิวตี้เทค เพื่อเชื่อมออนไลน์และออฟไลน์(O+O)ให้เติบโตควบคู่กัน

ที่ผ่านมาหลายกิจกรรมถูกเบรก แต่ครึ่งปีหลังอินเนสยืนยัน จะกลับมาใช้จ่ายงบประมาณ และลุยโฆษณาเร็วๆนี้ เพราะการทำตลาด สร้างแบรนด์ กระตุ้นยอดขายสำคัญ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลานี้มีผู้คนตกงาน กำลังซื้อผู้บริโภคลด เป็นปัจจัยกระทบธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งบริษัทหวังให้สถานการณ์ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว

ตลาดความงามจะเติบโตเหมือนเดิมหรือไม่ยากจะคาดเดา เพราะขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่น กำลังซื้อผู้บริโภค และความท้าทายในปีนี้ ยังเป็นเรื่องระดับการบริโภคของประชาชนจะกลับมาเท่าเดิม มั่นใจด้านเศรษฐกิจหรือไม่ และการใส่หน้ากากของผู้คนถือเป็น New Normal ที่ท้าทายการทำตลาดสินค้ากลุ่มเมกอัพ สกินแคร์ ลิปสติกอย่างมาก

159015721656

ผู้นำธุรกิจคู่สังคม

ปี 2563 ลอรีอัล ไม่ได้มุ่งแค่ผลทางธุรกิจเติบโต แต่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากขึ้น ทั้งการแจกจ่ายสินค้าความงามให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด และขานรับนโยบายบริษัทแม่ ที่ประกาศทุ่มงบ 150 ล้านยูโร เพื่อช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ก่อนหน้านี้ ลอรีอัล บริจาค ช่วยเหลือภาคส่วนต่างๆในช่วงโควิดไปแล้ว 150 ล้านบาท

ปีนี้เราจะนำสินค้าความงามไปมอบให้ผู้ด้อยโอกาสได้เข้าถึงเรื่องความงามอีก 1 แสนคนช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมด้านสังคมใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ในไทย