แห่พัก “สถานที่กักตัวทางเลือก”เกิน50%

แห่พัก “สถานที่กักตัวทางเลือก”เกิน50%

นิยมพัก “สถานที่กักตัวทางเลือก” ใช้บริการแล้วกว่า 50 % เหลือห้องรองรับอีก 131 ห้อง ใน 4 โรงแรม ลั่นแจ้งความเอาผิดคนแอบอ้างหลอกฟันหัวคิวผู้ประกอบการ

        เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคนา2019 หรือโควิด-19 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.)กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ร่วมมือกับAirbnb ในการให้ที่พักฟรีแก่บุคลากรทางการแพทย์และอสม.ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่บัดนี้-สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 นำร่องที่พักในประเทศ 200 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่บ้านพักอาจจะอยู่ห่างไกลจากสถานที่ทำงาน แต่ที่พักนัสงกัดของAirbnbใกล้กว่าก็สามารถเข้าพักได้ รวมถึง กรณีที่ไปปฏิบัติหน้าที่แล้วมีความเสี่ยง ต้องการที่จะพักห่างจากสมาชิกในครอบครัว ทั้งนี้ หากสนใจสามารถเข้าใช้บริการได้ผ่านแอพพลิเคชั่นAirbnb และเวบไซต์ https://th.airbnb.com/covid19relief-guests
         นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า ในส่วนของสถานที่กักตัวทางเลือก(Alternative State Quarantine)ที่เป็นที่พักในการเข้ากักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและสมัครใจที่จ่ายเงินเองในการเข้าพักในสถานที่กักตัวทางเลือก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 4 แห่ง รวม 303 ห้อง ขณะนี้มีผู้เข้าพักแล้ว 172 ห้อง เหลือว่างอีก 131 ห้อง แยกเป็น 1.Movenpick wellness BDMS Resort Hotel เหลือจำนวน 31 ห้อง 2.Qiu Hotel สุขุมวิท เหลือจำนวน 6 ห้อง 3.The Idle residence เหลือจำนวน 36 ห้อง และ4. Grand Richmond Hotel เหลือจำนวน 58 ห้อง

            159013640028
       ในส่วนของสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ขณะนี้มีอยู่ 25 แห่ง มีห้องรวม 8,369 ห้อง มีผู้เข้าพักอยุ่ 5,425 ห้อง
กรณีที่มีคนแอบอ้างในการเก็บค่าหัวคิวจากผู้ประกอบการในการสมัครเข้าเป็น State Quarantine นายสาธิต กล่าวว่า จะมีการดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้นกับผู้ที่กระทำผิด เพราะถือเป็นการบั่นทอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความสุจริตอย่างมาก
       นพ.ธเรศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่วมกันของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงกลาโหม พบว่าบุคคลตามข่าวนั้นไม่ได้เป็นบุคลากรในสังกัดของทั้ง 2 กระทรวง จึงได้มอบหมายให้นิติกรกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการแจ้งความเอาผิดบุคคลที่ปรากฎเป็นข่าวดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ขอย้ำให้ผู้ประกอบการอย่าหลงเชื่อผู้ที่แอบอ้างในลักษณะดังกล่าว เพราะโครงการนี้ดำเนินการโยภาครัฐและมีการพื้นที่ชัดเจน รวมถึงระบบการลงทะเบียนที่ให้ผู้ประกอบการลงชื่อมาก่อน และเข้าประเมินตนเอง จากนั้นจะมีคณะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขและกลาโหมลงพื้นที่ร่วมกันตรวจเยี่ยม