ขึ้นต่อ

ขึ้นต่อ

Trading Buy (โดยมี จุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวต้าน 1330 / 1337 จุด แนวรับ 1306 / 1300 จุด ปัจจัยบวก คือ การประชุมสมัชชาจีนอาจส่งสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษกิจจีนและการทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารฯ ปัจจัยลบ คือ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ปรับสูงขึ้น

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

        1) สภาประชาชนฯ จีนประชุมวันนี้ คาดส่งสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจีน (+สินค้าโภคภัณฑ์)

        2) ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดสหรัฐฯ กล่าวหาจีนจัดการผิดพลาดรับมือ COVID-19

        3) ธนาคารฯ ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก

        4) คาด ศคบ. เห็นชอบต่อการต่อพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: China-สภาประชาชนแห่งชาติประชุมประจาปี จับตาการกำหนดเป้าหมายเติบโตและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ Japan-คาดธ.กลางญี่ปุ่นมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายแต่อาจอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม ไทย-ดุลการค้าเดือน เม.ย. คาดเกินดุล +USD91mn (Vs เดือน มี.ค. +USD1.59bn) ส่งออก -0.5% YoY (Vs เดือน มี.ค. +4.17%) นาเข้า -5.75% YoY (Vs เดือน มี.ค. +7.25%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+/- ตลาดหุ้นไทยปิดทรงตัว: หลังจากปรับขึ้นต่อเนื่องกว่า 42 จุด ใน 3 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยวานนี้ กลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1315-1333 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1320.69 จุด -1.51 จุด วอลุ่ม 7.02 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำขึ้น เกษตรฯ +5.6% ไฟแนนซ์ +1.35% กลุ่มลดลง อสังหาฯ -1.2% ขนส่ง -1.1% หลักทรัพย์ที่ขึ้นแรง >4% STA TRUE MTC TQM SAWAD CPR SIMAT TRUBB TPOLY SYNTEC หุ้นร่วง คือ AMANAH PRM WHA AMATA SHR

- ตลาดหุ้นโลกอ่อนตัวเล็กน้อย: รายงานการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นและความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นโลกวานนี้ DJ -0.41% S&P500 -0.78% Nasdaq -0.97% CAC40 -1.15% FTSE -0.86% DAX -1.41%

+ น้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 6.: WTI +USD0.43 +1.28% ปิด USD33.92/บาร์เรล Brent +USD0.31 +0.86% ปิดที่ USD36.06/บาร์เรล คาดอุปสงค์น้ำมันดิบเพิ่มขึ้น จากหลายประเทศผ่อนคลาย lockdown

- ทองคำร่วงแรง: ปิดที่ USD1721.90/ออนซ์ -USD30.20 -1.72% จากการขายทำกำไรสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update ณ วันที่ 21 พ.ค.: ผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุด พบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 5 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 3.3 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.53 ล้านราย เสียชีวิต 9.35 หมื่นราย รองลงมา คือ รัสเซีย บราซิล

+ ไทย: ศบค.รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3 ราย (Vs วันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ 1 ราย) และไม่มีผู้เสียชีวิต แต่สมช. เสนอให้ต่อพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินออกไป 1 เดือน จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.

+ China: สภาประชาชนจีนจะประชุมประจำปีวันนี้ ตลาดจับตาการส่งสัญญาณเป้าหมายเติบทางเศรษฐกิจปีนี้

+/- ตลาดหลักทรัพย์: ขยายเกณฑ์ชั่วคราว Short Sell, Ceiling-Floor ออกไปเป็นสิ้นเดือน ก.ย. จากเดิมสิ้นสุดเดือน มิ.ย. เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด

+ EEC: บอร์ด EEC อนุมัติร่างสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนในโครงการอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก หลังได้ข้อตกลงกับกลุ่ม BTS

+ USA: ประธานาธิบดีทรัมป์ เผยจะไม่ปิดประเทศ แม้จะเกิดการระบาดรอบ 2 ของไวรัสฯ และวานนี้ไม่สวมหน้ากาก ในการชมโรงงาน Ford ในรัฐมิชิแกน แม้นโยบายรัฐและบริษัทฯ ให้สวมหน้ากากเวลาเข้าโรงงาน

+/- Japan: คาดผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นคงดอกเบี้ยที่ -0.1%

- USA-China: รมว.ตปท.สหรัฐฯ ไมค์ ปอมเปโอ กล่าวโจมตีจีนกรณีแพร่ระบาด COVID-19 โดยระบุว่าเม็ดเงิน USD2bn ที่จีนประกาศให้ความช่วยเหลือผ่าน WHO นั้นเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับหลายแสนชีวิตที่ต้องสูญเสียไป และความเสียหายอีกหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และหากประธานาธิบดีสีจิ้นผิง จริงใจ ก็ควรจัดงานแถลงข่าวและอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถามทุกคาถาม

- USA: จานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ สูงกว่าคาดการณ์เล็กน้อย โดยอยู่ที่ 2.44 ล้านราย (Vs คาด 2.4 ล้านราย, สัปดาห์ก่อนหน้า 2.981 ล้านราย) ทาให้ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. มีคนตกงานสูงถึง 38.6 ล้านราย แม้จะอนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กจานวนมากเปิดธุรกิจใหม่แล้วก็ตาม

- ธนาคาร: KBANK ลดดอกเบี้ยเงินกู้ MOR 0.38% ลด MRR MLR ลงอีก 0.125% และ KTB ลดดอกเบี้ยเงินกู้ MOR 0.4% MRR 0.125% MLR ลงอีก 0.125% มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. เพื่อสนับสนุนภาครัฐในการเร่งกิจกรรมและกิจการทางเศรษฐกิจ

แนะนำ Trading Buy (โดยมี จุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BTS TOP CRC

หุ้นแนะนำ Trading Buy: AOT CRC IVL COM7 SAWAD PTT TASCO

Derivatives: แนะเปิด Long S50M20 เมื่ออ่อนตัว เป้าทำกำไรในวัน 885 จุด (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)