ไขข้อข้องใจ! ทำไม ‘จีน’ ไม่กำหนดเป้า GDP ปีนี้?!

ไขข้อข้องใจ! ทำไม ‘จีน’ ไม่กำหนดเป้า GDP ปีนี้?!

นักวิเคราะห์ ไขข้อข้องใจกรณีที่จีนไม่กำหนดเป้าจีดีพีปี 2563 เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ในขณะที่ประเทศกำลังรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่หลวงที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19

บรรดานักวิเคราะห์มองว่า จีนกำลังพลาดเป้าเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี (GDP) เป็น 2 เท่าของปี 2553 ซึ่งถือว่าผิดคำพูด เพราะพรรคคอมมิวนิสต์เคยบอกว่าจะสร้างความมั่งคั่งให้ประชาชนแลกกับการรวบอำนาจไว้โดยไม่มีเงื่อนไข 

นอกจากขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นในปีนี้แล้ว รัฐบาลปักกิ่งยังเตรียมออกพันธบัตรรัฐบาลอีก 1 ล้านล้านหยวน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจะออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นพิเศษ 3.75 ล้านล้านหยวน เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ลดภาษีและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือบริษัท

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวว่า มาตรการเหล่านี้เป็น “มาตรการพิเศษสำหรับช่วงเวลาที่ไม่ปกติ”

รัฐบาลจีนเผยว่า จะกระตุ้นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ภายในประเทศ เพื่อหนุนเศรษฐกิจที่ปั่นป่วนเพราะไวรัส และความต้องการภายนอกหดหาย แต่อัตราการว่างงานในเขตเมืองอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้นเป็น 6% ในเดือนที่แล้ว ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่าตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านี้

นอกจากนี้ การกำหนดเป้าจีดีพีถูกมองว่า เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ผู้นำยินดีทุ่มงบประมาณยกระดับเศรษฐกิจแค่ไหน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: 'จีน' ยกเลิกเป้า 'จีดีพี' ปี63 หวั่นพิษ ศก.ยุคโควิด

ทอมมี เซียะ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเกรทเตอร์ ไชนา (Greater China) จากธนาคารโอซีบีซี เผยกับเอเอฟพีว่า ความเคลื่อนไหวปีนี้ของจีนเป็นไปตามความเป็นจริง สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของทั่วโลกทั้งจากโควิด-19 และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

แต่บรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า จีนยังคงมีเป้าหมายการเติบโตโดยนัยที่ 2-3% สำหรับปีนี้ เนื่องจากตั้งเป้าหมายการจ้างงานไว้สูง

อย่างไรก็ตาม เซียะมองว่า มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของจีนยังต่ำกว่าที่ประเทศอื่น ๆ ดำเนินการ และยังต่ำกว่ามาตรฐานโลกซึ่งอยู่ที่ราว 10% ของจีดีพี

ขณะที่ ซ่ง โฮวเช่อ นักวิจัยของสถาบันพอลสัน เชื่อว่า รัฐบาลปักกิ่งอาจคาดว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และไม่สม่ำเสมอจากการระบาดของโควิด-19

ส่วน ไอริส ผาง จากบริษัทไอเอ็นจี เผยกับเอเอฟพีว่า การสนับสนุนของทางการจีนยังน้อยกว่าที่คาดไว้ ถึงแม้รายงานในการประชุมใหญ่อาจจะปรับตัวเลขขาดดุลงบประมาณต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งหมายความว่าทางการสามารถปรับตัวเลขเพิ่มขึ้น หากตัวเลขจ้างงานไม่ฟื้นหรือความตึงเครียดทางการค้ารุนแรงขึ้น

ไอริส เสริมว่า รายงานของรัฐบาลจีนในปีนี้ถือเป็นทางเลือกทางการเมืองที่ชาญฉลาด เนื่องจากการไม่กำหนดเป้าจีดีพีย่อมส่งผลเสียหายน้อยกว่ากำหนดไปแล้วทำพลาดเป้า