ประธานบอร์ดคัดเลือกเปิดรับสมัครผู้ว่าธปท.26พ.ค.นี้

ประธานบอร์ดคัดเลือกเปิดรับสมัครผู้ว่าธปท.26พ.ค.นี้

ประธานบอร์ดคัดเลือกผู้ว่าธปท.ประกาศเปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าธปท.ในวันที่ 26 พ.ค.-16 มิ.ย.นี้ เพื่อคัดเลือกให้แล้วเสร็จก่อน 2 ก.ค.นี้ ระบุ คุณสมบัติสำคัญต้องมีความรู้ด้านการเงินของโลกและเศรษฐมหภาคเป็นอย่างดี

นายรังสรรค์  ศรีวรศาสตร์ ประธานกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธปท.โดยจะเปิดรับสมัครรวม 15 วันทำการ หรือ ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.- 16 มิ.ย.นี้

เขากล่าววว่า หลังการปิดรับสมัครแล้ว คณะกรรมการฯจะนัดประชุม เพื่อเปิดรายชื่อผู้สมัครในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ จากนั้น จะจัดให้มีการสัมภาษณ์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครในช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อสรุปรายชื่อจำนวนไม่น้อยกว่า 2 คน เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาและเสนอเข้าสู่การอนุมัติของคณะรัฐมนตรี โดยขั้นตอนการคัดเลือกจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เพื่อทูลเกล้าแต่งตั้งผู้ว่าธปท.คนใหม่

“ผู้สมัครสามารถแสดงวิสัยทัศน์ผ่านPower point หรือ โดยกระดาษ แต่ไม่เกิน 4 แผ่น ซึ่งเราคาดว่า จะเปิดให้มีการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ในวันเดียวจบ ทั้งนี้ เราจะไม่ประกาศรายชื่อผู้เข้ารับสมัครแต่อย่างใดจนกว่าจะคัดเลือกแล้วเสร็จ”

เขากล่าวว่า หากมีผู้สมัครเพียงรายเดียว หรือ ไม่มีผู้สมัครเลย เราต้องเปิดให้มีการขยายระยะเวลาการรับสมัครเพิ่มเติม แต่เชื่อว่า แม้ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจกำลังมีปัญหา จะเป็นจังหวะให้กับผู้ที่สนใจเข้าสมัครได้แสดงความรู้ความสามารถ ซึ่งเรามองว่า เป็นความท้าทายสำหรับการทำงานของผู้ว่าธปท.คนใหม่

สำหรับคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร เช่น มีสัญชาติไทย มีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเสนอชื่อเพื่อทรงแต่งตั้ง สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) รับรอง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร เช่น มีความรู้ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ และภาวะเศรษฐกิจการเงินของโลกเป็นอย่างดี มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนโยบายการเงิน นโยบายการกำกับดูแลสถาบันการเงิน และนโยบายเกี่ยวกับระบบการชำระเงินเป็นอย่างดี เป็นต้น

“ถ้าเป็นผู้บริหารจากบริษัทเอกชนจะต้องเคยบริหารธุรกิจที่มีมูลค่าเกิน 1.5 หมื่นล้านบาท ถ้าเป็นผู้บริหารแบงก์รัฐจะต้องอยู่ในตำแหน่งเบอร์ 2 ขององค์กรขึ้นไป ส่วนถ้าเป็นคนการเมือง จะต้องพ้นจากสภาพการเป็นการนักการเมืองไม่น้อยกว่า 1 ปี”