คนเถื่อนแลเมือง

คนเถื่อนแลเมือง

การเมืองไทยยุคหลังคสช.และโควิด-19นั้น พิลึกพิลั่นพอสมควร อะไรแปลกๆก็เกิดขึ้นได้ชนิดที่สังคมงงใจ?!?

แว่วเสียงจาก แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าเร็ววันนี้หลายพรรคสั่งลูกพรรคให้พร้อมลงพื้นที่หาแต้มกันแล้ว! เพราะประเมินกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะถึงเวลาพักผ่อนหลังไวรัสมรณะคลี่คลาย เพราะหลากวิธีคุมโควิด-19ล้วนมีแผลทั้งนั้น ยิ่งวิธีเยียวยาประชาชนแบบชักเข้าชักออกเช่นนี้ ไม่น่าจะทำแต้มบวกให้ลุงตู่เลย ผนวกกับคลื่นลมในขั้วรัฐบาลเองก็ยิ่งสะท้อนว่าการเลือกตั้งรอบหน้ามาไวกว่าที่คาด!

เหลียวมองความจริงจากขั้วฝ่ายค้าน มันพอเข้าเค้า เพราะรมต.หลายคนหายเข้ากลีบเมฆหลังรับหน้าที่และไม่มีผลงานประจักษ์รวมทั้งยังเลื่อยขากันเอง!

หนึ่งในเสนาบดีที่สร้างปัญหาให้ นักเรียน-ครู-ผู้ปกครอง และสมควรโดนตำหนิ คือณัฏฐพล ทีปสุวรรณรมว.ศึกษาธิการเพราะช่วงวิกฤตเยี่ยงนี้ ข่าวเชิงบวกควรคลอดออกมาจากรมต.เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคม แต่ความจริงรมต.คนนี้กลับให้ข่าวเตะขาเก้าอี้ตัวเอง!เช่นตอนนี้กระแสเรียนออนไลน์และนักเรียน20คน/ห้องเพื่อเว้นระยะในห้องเรียนรวมทั้งลดเวลาทำงานของขรก.กระทรวงนี้นั้น พบว่าชาวบ้านโห่ไล่!

 

พูดตรงๆ ครูตั้น มีเวลาคิดรับมือมากกว่าใครอื่นในการดูแลแก้ปัญหาล่วงหน้าตั้งแต่ไวรัสมรณะรุกไทย แต่ครูตั้นกลับไปอยู่ไหนไม่รู้..มาทีก็เอาแต้มลบมาฝาก แบบนี้ควรจะย้ายหรือหลุดเก้าอี้ไปเลย...ลุงตู่คงพินิจได้อยู่แล้ว!

ส่วน พลังประชารัฐ พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลที่ตอนนี้มีข่าวแกนนำพรรคบางส่วนจ่อแยกไปตั้งพรรคใหม่หลังกระแสปรับโครงสร้างพรรคและใกล้ครบวาระหนึ่งปีครม.เรือเหล็กจนสื่อนำไปขยายความกันเอิกเกริกเตลิดเปิดโปงไปหลายคุ้งน้ำ

แกนนำพรรค ที่ควรออกมาสยบข่าวร้าวกลับนิ่งสนิท..กว่าจะขยับตัวออกมาได้ภาพลักษณ์ก็เละไปแล้ว!และมันคือการยืนยันจากสภากาแฟว่าพลังประชารัฐคือ พรรคเฉพาะกิจ แท้จริง เพราะแกนนำแต่ละมุ้งมาร่วมหอลงโรงแบบทำไปเพื่อตัวเอง มิใช่เพื่ออุดมการณ์ แบบนี้หย่อนบัตรคราวหน้า ลุ้นยากยิ่งว่าพปชร.จะหลุดไปเกียกกายกี่คน?!?