'แคสเปอร์สกี้' ชี้องค์กรในอาเซียนเร่ง 'สกัดข้อมูลรั่ว' 

'แคสเปอร์สกี้' ชี้องค์กรในอาเซียนเร่ง 'สกัดข้อมูลรั่ว' 

แคสเปอร์สกี้ เผย องค์กรใหญ่ทั่วอาเซียนกังวล “ข้อมูลรั่ว” เร่งหาวิธีป้องข้อมูลอย่างเร่งด่วน ระบุ อาเซียนทุ่มเงินกว่า 14 ล้านดอลล์ยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ 

จากการสัมภาษณ์ผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจไอทีเกือบ 300 คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่แล้ว บริษัทต่างกลัวข้อมูลจะสูญหายและถูกโจมตีจากเป้าหมายมากที่สุด หรือราว 34% ตามด้วยการรั่วไหลของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จากระบบภายใน หรือคิดเป็น 31% ขณะที่อีก 22% ยอมรับกังวลใจต่อความเป็นไปได้ในการสอดส่องหรือการจารกรรมโดยคู่แข่ง นอกจากนี้ บริษัทในภูมิภาคนี้ 2 ใน 10 ยอมรับว่ากังวลเกี่ยวกับการระบุและแก้ไขช่องโหว่ในระบบไอทีที่ใช้อยู่

บริษัทจำนวน 18% ระบุว่าเหตุการณ์ที่กระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ดูแลโดยเธิร์ดปาร์ตี้ และใช้ทรัพยากรไอทีที่ไม่เหมาะสมของพนักงานนั้น เป็นสิ่งที่บริษัทกังวลอย่างยิ่ง

นายโยว เซียง เทียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แคสเปอร์สกี้ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้แสดงและพิสูจน์ผลพวงการโจมตีทางไซเบอร์ที่ประสบความสำเร็จ ทั้งเหตุการณ์ปล้นเงิน 81 ล้านดอลลาร์จากธนาคารกลาง การละเมิดข้อมูลรั่วไหลของรายชื่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ประสบการณ์ในอดีต จึงเป็นบทเรียนความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่องค์กรและธุรกิจทุกขนาดและทุกรูปแบบควรเรียนรู้

“เราเห็นว่าบริษัทเริ่มจัดลำดับความสำคัญความปลอดภัยด้านไอที ในความเป็นจริงการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้วธุรกิจในภูมิภาคนี้ใช้เงิน 14.4 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างขีดความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การสำรวจผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทต่างๆ พบว่า 84% ยืนยันว่า จะเพิ่มงบประมาณสำหรับพื้นที่นี้ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสำคัญมากในยุคนี้ที่เน็ตเวิร์คมีความก้าวหน้าและซับซ้อนมากขึ้น เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ เช่น อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ 5จี และอุตสาหกรรม 4.0”