ขึ้นต่อเนื่อง

ขึ้นต่อเนื่อง

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ขานรับสัญญานบวก หลังหลายประเทศคลายล็อกดาวน์เมือง

ประกอบกับราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวแรง ช่วยหนุนกลุ่ม ENERG นอกจากนี้ ภายในประเทศยังได้ปัจจัยหนุน หลัง กนง.มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 bps สู่ระดับ 0.5% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,322.20 จุด (+12.25 จุด) Volume 6.7 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,648.58 ลบ. TFEX Net +4,719 สัญญา ตราสารหนี้ -1,045 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 369.04 จุด +1.52% ขานรับ .คาดการณ์ศก.สหรัฐจะฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และเฟดอาจออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติมจากรายงานการประชุมเฟดในเดือนเม.ย.บ่งชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่กังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 1.53 ดอลลาร์ +4.8% ขานรับรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด และความหวังว่าความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวหลังจากหลายประเทศผ่อนคลายล็อกดาวน์

+/- ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 5 ล้านราย สหรัฐติดเชื้อสูงสุด 1.5 ล้านราย ยอดผู้เสียชีวิต 3.25 แสนราย สหรัฐเสียชีวิตสูงสุด 9.3 หมื่นราย  ส่วนสถานการณ์ในไทยยังดีพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 รายวานนี้ ผู้เสียชีวิตทรงตัว

+กนง.มีมติ 4 ต่อ 3 ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 0.50% ห่วงบาทแข็งกระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

-ส.อ.ท. เผยเม.ย.ยอดผลิตรถยนต์ลดลง 83.55% ต่ำสุดรอบ 30 ปีจากการปิดโรงงาน ส่งออกรถยนต์ -70%YoY ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เม.ย.63 ต่ำสุดรอบ 11 ปี

-ทองคำปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 14.84 จุด -0.51%

+ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดเพิ่มขึ้น 161.70 จุด +0.79% เช้านี้เปิด +97.44 จุด

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.9 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.81 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดโลก โดยนักลงทุนคาดหวังว่าเฟด จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ประกอบกับได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น +4.8% และผลการประชุมกนง. มี ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,310-1,335 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

WICE Conference Call : เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยว (“ซื้อราคาเหมาะสม IAA Consensus 3.00)

ผลประกอบการ 1Q20 มีรายได้รวม 656.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36%YoY จากปริมาณการส่งออกสินค้าทางอากาศไปยังประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสัดส่วนการส่งออกไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิมอยู่ที่ 26% ประกอบกับ ETL สามารถพลิกมีกำไรเป็นครั้งแรกราว 10 ล้านบาท จากที่ขาดทุนในปี 19 ที่ 48 ล้านบาท จากการบริหารจัดการสินค้าเที่ยวขากลับได้มากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง โดย Net Profit Margin ปรับตัวดีขึ้นจากเฉลี่ยที่ 2% ในปี 19 เป็น 4.61% ใน 1Q20 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 30.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127%QoQ และ 160%YoY

สำหรับแนวโน้มธุรกิจใน 2Q20 คาดได้แรงหนุนจากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับบริษัทเตรียมรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นตามผลประกอบการของ WICE Logistics (Singapore) เพิ่มอีก 30% หรือประมาณ 18 ล้านบาท หลังจาก WICE เข้าถือหุ้น 100% ใน WICE SG เมื่อวันที่ 5 พ.ค.63 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 20 ที่ระดับ 2.7 พันล้านบาท เติบโต 20%YoY

ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมนักวิเคราะห์ โดยธุรกิจ Cross Border เริ่มสามารถสร้างกำไรได้ ประกอบตลาดประเทศจีนมีแนวโน้มปริมาณงานสูงขึ้น จากการนำเข้าและส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ หลังปลด Lockdown และอัตราค่าระวางเครื่องบิน

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่จะเข้าคำนวณ MSCI Global Standard (AWC BAM KTC) มีผล 29 พ.ค. 
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการผ่อนปรน ระยะที่ 2 (HMPRO DOHOME COM7 AU M)
  • หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ดี (WICE TASCO CPF)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย (BAM MTC SAWAD SINGER)

หุ้นมีข่าว   

DOHOME (Bloomberg Consensus 8.55 บาท)

·         รายงานกำไร 1Q63 เท่ากับ 177.3 ลบ. -28.1%YoY โดยมีรายได้เท่ากับ 4,578 ลบ. -7.5%YoY เนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 ทำให้ภาครัฐออก พรก.ฉุกเฉิน ดังนั้นบริษัทจึงปิดสาขาชั่วคราว 8 สาขาขนาดใหญ่ และ 6 สาขาขนาดเล็ก ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วน %GPM ลดลงมาที่ระดับ 15.4% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 16.4% เนื่องจากปีก่อนที่มีการกลับรายการพิเศษทำให้ต้นทุนลดลง อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเฉพาะรายการที่ไม่ถูกกระทบ %GPM ของ 1Q62 จะเท่ากับ 14.9% ต่ำกว่าในงวด 1Q63 เนื่องจากสัดส่วนสินค้า House Brand ที่เพิ่มขึ้นจาก 14.5% มาที่ระดับ 17.3%

·         แนวโน้ม 2Q63 เริ่มมีสัญญาณบวก แต่ยังคงได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดย SSSG เดือน เม.ย. ติดลบราว 16-18% อย่างไรก็ดี ภายหลังจากการปลดล็อกกิจกรรมเฟส 1 ในวันที่ 3 พ.ค. และเฟส 2 ในวันที่ 17 พ.ค. ส่งผลให้ SSSG ในเดือน พ.ค. เริ่มกลับมาเป็นบวกเล็กน้อย ขณะที่แผนการเปิดสาขาในปีนี้ ยังคงเป้าเดิม คือ 3 สาขาขนาดใหญ่ ส่วนสาขา To Go ยังคงขึ้นกับสถานการณ์ แต่มีในแผนแล้วราว 5 สาขา ซึ่งจะเห็นการเร่งขยายสาขาในช่วง 2H63

·         BBL (Bloomberg Consensus 135.65) แจ้งการเข้าทำรายการซื้อหุ้นธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเคสำเร็จแล้วหลังโอนเงิน 73,722 ล้านบาทชำระค่าซื้อหุ้นสัดส่วน 89.12% ตามมูลค่าประเมินที่ตกลงร่วมกันที่ 1.63 เท่าของมูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ 31 มี.ค. 63 ให้กับพีที แอสทรา อินเตอร์เนชั่นแนล ทีบีเค และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ในวันนี้ (20 พ.ค.63) (ที่มา SET NEWS)

·         ความเห็น ราคาซื้อต่ำกว่าเดิมที่ 1.77 เท่าเป็นไปตามเงื่อนไขใหม่หากซื้อเสร็จสิ้นภายในเดือนมิ.ย. 63 ทำให้เงินที่ซื้อลดลงจากเดิม 8.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 9% ฝ่ายวิจัยประเมินดีลนี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวในการขยายฐานลูกค้า ล่าสุด BBL นำร่องลดดอกเบี้ย MOR-MRR มีผล 21 พ.ค.

·         (+) GPSC (Bloomberg Consensus 81.71 บาท) แย้มผลงานไตรมาส 2/63 โต! เหตุเริ่มบุ๊กรายได้โซลาร์ฟาร์มที่ซื้อมา 9 โครงการ กำลังผลิตรวม 39.5 เมกะวัตต์ ปัจจัยบวกต้นทุนก๊าซฯ-ถ่านหินลดลง เล็งชงผู้ถือหุ้น 4 มิ.ย.นี้อนุมัติออกหุ้นกู้ 4 หมื่นล้าน รองรับแผนลงทุน 5 ปี ราคาเป้าหมาย 95 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) WHAUP (Bloomberg Consensus 6.38 บาท) เดินหน้าลงทุนโครงการโซลาร์รูฟท็อปต่อเนื่องทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม หลังกระแสตอบรับดี ล่าสุดเซ็นสัญญากับ ฮอนด้าติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา 2 โรงงาน รวม 5 เมกะวัตต์ มั่นใจปี 63 ปิดดีลครบ 50 เมกะวัตต์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+/-) IRPC (Bloomberg Consensus 2.64 บาท)  ปรับแผนครั้งใหญ่! ลดงบลงทุน 5 ปีลง 48% เหลือ 2.8 หมื่นล้านบาท พ่วงหั่นสต๊อกน้ำมัน-วัตถุดิบ หวังป้องกันความเสี่ยง แจงบาทอ่อนค่าเป็นผลดีต่อธุรกิจ ด้านโบรกเกอร์ ชี้พ้นจุดต่ำสุดแล้ว แถมลุ้น Q2/2563 หวนกำไรปกติราว 200 ล้านบาท เชียร์สอย เป้าหมาย 3.40 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+) RBF (Bloomberg Consensus - บาท)  เชื่อภาพรวมทั้งปี 2563 รายได้เติบโตตามเป้า 10-12% จากปีก่อนที่ 2,881.99 ล้านบาท จับตาสถานการณ์โควิด-19 ต่อเนื่อง แม้เลื่อนเปิดโรงงานที่ประเทศเวียดนามแต่ไม่กระทบรายได้ ลุยขยายตลาดต่อเนื่อง ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในระยะ 5 ปี แตะ 20% จากปัจจุบัน 15%  (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+/-) โบรกแนะลงทุนหุ้นเข้า SET50/SET100 รอบใหม่มีผล 1 กรกฎาคมนี้ พร้อมเปิดโผหุ้นเข้า SET50 TTW-BPP ส่วนหุ้นเข้า SET100 ได้แก่ ACE-TVO-WHAUP-DOHOME-SIRI-RBF-SISB-AAV ขณะที่มี THAI หลุดจากการคำนวณรอบนี้ด้วย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTEP (Bloomberg Consensus 84.71 บาท) ชี้ราคาน้ำมันไตรมาส 2/2563 ถึงจุดต่ำสุด ประเมินทั้งปีราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 36-37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังวิกฤติโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวดีขึ้น ประเมินปริมาณขายในไตรมาส 2/2563 ไว้ที่ 3.49 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมประเมิน EBITDA Margin ทั้งปี 2563 อยู่ระดับ 65-70% ลุยซื้อกิจการในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GULF (Bloomberg Consensus 34.60 บาท)  และโครงการหินกอง 1400 เมกะวัตต์ ซึ่งถือหุ้นโดย GULF 49% - RATCH 51% ได้รับอนุมัติเป็นผู้จัดหา-นำเข้า LNG รายใหม่ ขณะที่ GULF ตั้งบริษัท กัลฟ์ แอลเอ็นจี รองรับแล้ว ขณะที่ BGRIM ยกความพร้อมลุย LNG ด้วย เผยดีมานด์ใช้ไฟฟ้าพฤษภาคมกลับมาเกือบ 100% ลูกค้าเข้าต่อเนื่อง Q2/2563 โตต่อ (ที่มา  ทันหุ้น)

ประเด็นลบกลุ่มท่องเที่ยว ประธานท่องเที่ยวอาเซียนรับยังฟื้นยาก ทัวร์กรุ๊ปใหญ่หาย เดินทางกรุ๊ปเล็กมากขึ้น เร่งดึงเศรษฐีอาเซียนเข้าทดแทน คาดนักท่องเที่ยวปกติมีนาคมปีหน้า โบรกประเมิน MINT เหนื่อยแม้ประกาศเพิ่มทุนและลดต้นทุนดึงสภาพคล่อง ชี้กำลังซื้อหายวูบ NH Hotel ยุโรปยังแย่ ทำขาดทุนปีนี้สูงเฉียดหมื่นล้าน โบรกแห่สั่งขาย (ที่มา ทันหุ้น)