ราคาน้ำมันพุ่งเกือบ5%หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง

ราคาน้ำมันพุ่งเกือบ5%หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ(20พ.ค.)ปรับตัวขึ้นเกือบ 5% หลังการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงของสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสัญญาณการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 4.79% ปิดที่ราคา 33.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ราคา 35.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวก จากการที่รัฐบาลต่างๆพากันผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งการที่ซาอุดีอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. นอกเหนือจากที่ได้ปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส

การลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมดังกล่าว ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียลดกำลังการผลิตรวม 4.8 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. และจะทำให้ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.492 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงของกลุ่มโอเปกพลัส ซาอุดีอาระเบียมีกำหนดผลิตน้ำมันที่ระดับ 8.492 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.และมิ.ย.

ทางด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ และคูเวตระบุเช่นกันว่าจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมตามซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งสองประเทศจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 180,000 บาร์เรล/วัน

อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของราคาน้ำมันถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก