‘อาลีบาบา’ เสริมเขี้ยวเล็บผู้ค้าไทย เปิด 'ตลาดโลก' ฝ่าวิกฤติโควิด-19

ผู้ขายชาวไทยได้รายการสั่งซื้อจากลูกค้าทั่วโลกราย 40,000 รายการในทุกๆ 30 วัน

โลกการค้าออนไลน์มีบทบาทมากขึ้น เมื่อวิธีทำธุรกิจแบบดั้งเดิมได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อาลีบาบาดอทคอม (Alibaba.com) ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายแบบธุรกิจต่อธุรกิจ หรือบีทูบีสำหรับการค้าระดับโลก มีการเติบโตสูงถึง 86% จากปริมาณการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มเดือน เม.ย.63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ผู้ขายชาวไทยขายสินค้ากว่า 170,000 ประเภทบน Alibaba.com และได้รายการสั่งซื้อจากลูกค้าทั่วโลกประมาณ 40,000 รายการในทุกๆ 30 วัน ขณะที่ อุตสาหกรรมท้องถิ่นอย่าง อาหารและเครื่องดื่ม เกษตรกรรม ผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายใต้แพลตฟอร์ม

ล่าสุด อาลีบาบาดอทคอม จัดสัมมนาออนไลน์ครั้งแรก หวังช่วยเอสเอ็มอีให้ฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ได้เร็วขึ้น ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ใช้โอกาสที่มีอยู่ในตลาดโลกก้าวผ่านอุปสรรคช่วงหลังวิกฤติโควิด-19 และภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจภายใต้หัวข้อ “Go Export 2020: Thailand Online Seller Summit” ซึ่ง Alibaba.com เปิดตัวหลักสูตรฝึกอบรมผู้ขายออนไลน์และสมาร์ทมาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นที่จะช่วยให้ผู้ขายเข้าถึงบายเออร์อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น

ทุกวิกฤติย่อมมี ‘โอกาส’

“ณัฐพล รังสิตพล” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า การจัดสัมมนาออนไลน์กลายเป็น นิว นอร์มอล การค้าออนไลน์ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทวีความสำคัญ ในทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส อีคอมเมิร์ซเป็นหนึ่งโซลูชั่นที่ผู้ประกอบการไทยไม่อาจมองข้าม หากต้องการจะยืนหยัดและประสบความสำเร็จในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้

‘สตีเฟน คูโอ’ ผู้อำนวยการอาลีบาบาดอทคอม (Alibaba.com) ประจำเอเชียแปซิฟิก กล่าวถึง การใช้แพลตฟอร์มสนับสนุนธุรกิจไทย ช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก และอินไซต์เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค เทรนด์ และการเข้าถึงกลุ่มบายเออร์ทั่วโลกผ่านอาลีบาบาดอทคอม

“ผลกระทบจากโรคระบาดทำให้เอสเอ็มอีจำเป็นต้องปรับโมเดลทางธุรกิจให้ยืดหยุ่นขึ้น เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย เราต้องการช่วยเหลือผู้ส่งออกและแบรนด์ในไทยเข้าถึงและมีบทบาทในตลาดโลกบนแพลตฟอร์มของเรา ด้วยเครื่องมือทางดิจิทัลที่สามารถประเมินและตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการของตลาด เราตั้งใจที่จะช่วยให้ธุรกิจให้พ่านพ้นช่วงฟื้นตัวไปได้ด้วยดี"

ชูโซลูชั่นเอไอวิเคราะห์ราคา

ที่ผ่านมา อาลีบาบาดอทคอม ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลส่งเสริมเอสเอ็มอีทั่วโลกด้วยจำนวนบายเออร์ราว 18 ล้านรายจาก 190 ประเทศ ที่สนใจและต้องการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มเครื่องมือที่มีในปัจจุบัน นอกจากการแปลภาษาอัตโนมัติ การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงาน ล่าสุดอาลีบาบา เปิดตัว “สมาร์ทมาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่น” ซึ่งออกแบบเพื่อสนับสนุนผู้ขายคนไทยขายสินค้าในราคาที่เหมาะสม ด้วยระบบวิเคราะห์จากเอไอ (AI) และการเสนอราคาอัตโนมัติที่อ้างอิงมาจากอินไซต์ของอาลีบาบาดอทคอม

โซลูชั่นดังกล่าวช่วยเอสเอ็มอี ประเมินความต้องการสินค้าแต่ละประเภท ตั้งราคาเหมาะสมเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ วัดผลกลยุทธ์ที่ผู้ขายใช้โปรโมทร้านค้าเพื่อให้ผู้ประกอบการเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมและเติบโตได้รวดเร็ว ช่วยธุรกิจลดต้นทุนค่าแรงในการหาอินไซต์ต่างๆ โดยการใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติเข้ามาแทนที่

นอกจากนี้ ยังเปิดตัว “Star Supplier Incubation Program – Alibaba.com Seller E-academic Program” หลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์เป็นเวลา 4 สัปดาห์หนุนผู้ขายคนไทยให้คุ้นเคยการค้าระดับโลก แนะแนวผู้เข้าร่วมเริ่มสร้างธุรกิจ เข้าใจกับพฤติกรรมบายเออร์ออนไลน์ การต่อรองทางธุรกิจออนไลน์ การบริการลูกค้า เกร็ดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญแต่ละอุตสาหกรรม หลักสูตรจะเริ่มสอนตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.-10 ก.ค.63

เอสเอ็มอีสบช่องดันสินค้าสู่ตปท

‘วีรนุช คชรัตน์’ ซีอีโอ บริษัท K.S. Industry และ Trading จำกัด แชร์ประสบการณ์ที่บริษัทโปรโมทสินค้าไทย เช่น สินค้าเกษตรแปรรูป และอาหารสดในตลาดโลกผ่านอาลีบาบาดอทคอม ยังสามารถดำเนินกิจการบนอาลีบาบาดอทคอมได้ปกติ แม้ธุรกิจในส่วนอื่นจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19

‘ปณิชา เลาหะมณฑลกุล’ ผู้อำนวยการฝ่าย Business Development บริษัท 3 เอ็ม ฟูด โปรดัก จำกัด อธิบายถึงความท้าทายจากอาลีบาบาดอทคอม เพราะต้องแข่งขันกับตลาดอาหารอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งสุดท้ายธุรกิจประสบความสำเร็จจากการปิดดีลกับบายเออร์ชาวบังคลาเทศผ่านอาลีบาบาดอทคอมในช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19