'สังคมไร้เงินสด' ปลุกวิถีนิวนอร์มอล ‘ทรู มันนี่’ ตั้งเป้าโต 50%

'สังคมไร้เงินสด' ปลุกวิถีนิวนอร์มอล ‘ทรู มันนี่’ ตั้งเป้าโต 50%

‘ทรู มันนี่ วอลเล็ต’ ย้ำผู้นำตลาดอีวอลเล็ตเบอร์ 1 ภูมิภาค เร่งพัฒนาบริการตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด ยกระดับจาก ‘เพย์เมนท์ ’ สู่ ‘ไลฟ์สไตล์’ เผย ‘วิกฤติโควิด’ จุดเปลี่ยนคนแห่ใช้อีวอลเล็ตแทนเงินสด ตั้งเป้าสิ้นปี 63 ดันทรู มันนี่ วอลเล็ต โต 50%

สังคมไร้เงินสด วิถีชีวิต 'นิว นอร์มอล'

มนสินี เชื่อว่า หลังโควิดอัตราเติบโตการใช้อีวอลเล็ตในไทยจะยังคงเติบโตขึ้นอีก เพราะจะกลายเป็นนิวนอร์มอลวิถีชีวิตคนยุคใหม่ ขณะที่ปัจจุบันคนเริ่มทยอยกลับไปทำงานจากมาตรการคลายล็อกของภาครัฐ การใช้อีวอลเลตก็ยังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคงเป็นเทรนด์ที่จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง 

"เรายังไม่กลับมาใช้พฤติกรรมแบบเดิมได้ในเร็ววัน ซึ่งคิดว่าจากวันนี้ต่อไปพฤติกรรมคนคงถูกเทรน และถูกบังคบให้เปลี่ยนไปในเรื่องความสะอาด การเว้นระยะห่าง การใช้อีวอลเล็ต หรืออิเล็กทรอนิกส์ อีเพย์เม้นท์ต่างๆ" 

ขณะที่ หนึ่งไตรมาสที่ผ่านมาโวลุ่มการใช้จ่ายรวมผ่าน ทรู มันนี่ วอลเล็ต โตขึ้นมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉลี่ยผู้ใช้มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 2,000 บาท ใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งที่ 250-300 บาท หมวดที่มียอดจำนวนครั้งการจ่ายมากที่สุด ได้แก่ เติมเน็ต ซื้อดิจิทัลคอนเทนท์ ซื้อไอเท็มเกมในกูเกิล เพลย์ สโตร์ และแอพ สโตร์ รวมไปถึงในเซเว่น อีเลฟเว่น ขณะที่ หมวดที่มียอดจำนวนเงินบาทมากที่สุด ได้แก่ จ่ายบิล และรีเทล เพย์เมนท์ ยอดผู้ใช้งานแอคทีฟของ ทรู มันนี่ วอลเล็ต ณ สิ้นเดือนมี.ค.63 อยู่ที่ 13 ล้านราย ขณะที่ มูลค่าการใช้จ่ายผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ต ในประเทศไทย ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท 

จาก เพย์เม้นท์ สู่ ไลฟ์สไตล์ 

มนสินี กล่าวว่า การพัฒนาต่อยอดบริการบน ทรู มันนี่ วอลเล็ต นอกจากจะตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการเพย์เม้นท์ที่แข็งแกร่งแล้ว ยังเน้นปรับขยายให้ฐานลูกค้าของทรู มันนี่ วอลเล็ต ได้รู้จักร้านค้าต่างๆ ด้วย 

“เราพยายามทำให้ทรู มันนี่ วอลเลต เป็นโอเพ่นแพลตฟอร์มให้ร้านค้า ไม่ว่าเล็ก หรือใหญ่ มาปลั๊กอิน และเราก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้เซกเมนท์ลูกค้าตรงกับสินค้าหรือไลฟ์สไตล์ของลูกค้า แมตช์พฤติกรรมผู้บริโภคเข้ากับร้านค้า เป็นการผันจากเพย์เม้นท์เป็นไลฟ์สไตล์ ขณะที่ในมุมคู่ค้าเรา ทรู มันนี่ วอลเล็ต จะผันจากการเป็นเพย์เม้นท์ โพรวายเดอร์ เป็นโซลูชั่น โพรวายเดอร์ นี่คือทิศทางที่เราจะไป ซึ่งจะช่วยทั้งลูกค้าและผู้ค้า”  

มนสินี กล่าวด้วยว่า ทรู มันนี่ วอลเล็ตเน้นพัฒนาฟีเจอร์เพื่อให้เกิดคุณค่ากับผู้ใช้งาน และเกิดคุณค่ากับร้านค้า หรือธุรกิจ ขณะที่ร้านค้า และธุรกิจต้องดิจิไทซ์ตัวเองอย่างเร่งด่วน เดิมเคยมีแค่หน้าร้าน แต่ตอนนี้ก็ต้องใช้ ดิจิทัล แชนนัลเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น 

"เราจะเน้นฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า และร้านค้า เช่น ช่วงที่ล็อกดาวน์ที่ผ่านมา เราใช้เวลาอันสั้นพัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ทำ ช็อปเนียร์มี คือ ร้านค้าเล็กๆ ที่ต้องปิด ไม่สามารถมีที่นั่งให้คนนั่งได้ สามารถมาโปรโมทร้านค้า และสินค้าของเขา ถ้าเป็นร้านอาหาร ก็โปรโมทอาหาร และมีปุ่มให้คน กด และโทรศัพท์ไปสั่งได้"

ทรู มันนี่ วอลเล็ต ถือเป็นบริการเรือธงของ แอสเซนด์ มันนี่ เป็นพาร์ทเนอร์บริษัทแอนท์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ครองผู้นำในตลาดอีวอลเล็ตในไทย ด้วยจุดให้บริการชำระมากกว่า 200,000 จุด ครอบคลุมทั่วประเทศ และเป็นผู้นำอีวอลเล็ตระดับภูมิภาคด้วยบริการที่ครอบคลุุม 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา พม่า และไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ มีข้อมูลระบุว่า ยอดใช้จ่ายในวอลเล็ตรวมทั้ง 6 ประเทศ มีเม็ดเงินสะพัดราว 3 แสนล้านบาท

“ถ้าเทียบในภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มซีแอลเอ็มวี ไทยนำโดยทรู มันนี่ วอลเล็ตยังเป็นเบอร์ 1 ในตลาดอีวอลเล็ต” 

ขณะที่ การแข่งขันจากนี้ ‘มนสินี’ เชื่อว่า ผู้ให้บริการทุกราย มองว่า เป็นโอกาสที่ดีที่อีวอลเล็ตจะเข้ามาสร้างคุณค่าอย่างจับต้องได้ให้กับลูกค้า เป็นตลาดที่อยู่ในช่วงเปิดรับอย่างเต็มที่  หัวใจของอีวอลเล็ตจริงๆ อยู่ที่ ความสะดวก ต้องให้ถึงจุดที่ไม่ต้องพกเอาเงินสดจริงๆ ออกไปใช้จ่ายนอกบ้านได้จริงๆ ขณะที่ทำอย่างไรให้มีจุดชำระที่มากที่สุดต้อง 24x7 หรือต้องตอบโจทย์ได้ 24 ชั่วโมง ตลอดทั้ง 7 วัน

"แต่ศักยภาพการสร้างอีโคซิสเต็มส์ก็จะไม่เหมือนกัน อย่างทรู มันนี่ เราโชคดีที่เป็นพาร์ทเนอร์ทั้ง ซีพีกรุ๊ป และแอนท์ ไฟแนนเชียล  แล้วก็พาร์ทเนอร์นอกกลุ่ม เราจึงค่อนข้างครบ ทั้งคอนซูมเมอร์ และร้านค้าใหญ่เล็ก และจะมีเทสโก้ โลตัสที่เข้ามาอีก เราก็จะครบ  ดังนั้นความครบ และมีความสะดวก ทรู มันนี่ วอลเล็ต จึงค่อนข้างได้เปรียบ ขณะที่คู่แข่งในตลาด ก็คงพยายามมองไปถึงการให้คุณค่าที่มากกว่าแค่เพย์เม้นท์ เช่น ไลฟ์สไตล์ หรือโซลูชั่นให้ร้านค้า" 

มนสินี ทิ้งท้ายว่า ภาพรวมทั้งปี 2563 ของ ทรู มันนี่ วอลเล็ต คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 50% ทั้งจำนวนยูสเซอร์ และจำนวนโวลุ่มเพย์เม้นท์