'เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส' ...แรงพอได้ ช่วงล่างโดดเด่น
ปี 2561 มิตซูบิชิ นำเข้า “เอ็กซ์แพนเดอร์” รถเอ็มพีวี ที่มิตซูบิชิ เรียกว่า ครอสโอเวอร์ จากอินโดนีเซีย เข้ามาเปิดตลาด และได้รับการตอบรับเกินคาด และช่วงต้นปีนี้ มิตซูบิชิ ต่อยอด เสริมตลาดด้วย รุ่น "เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส"
“เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” ปรับโฉมให้ดูหรูขึ้น สปอร์ต บึกบึนขึ้น และมีกลิ่นอายของรถเอสยูวี ทั้งการเพิ่มความสูงใต้ท้องรถขึ้นอีก 20 ซม. เป็น 225 มม. พร้อมปรับแต่งช่วงล่างใหม่ ให้เหมาะกับการใช้งาน ตกแต่งด้วยแผงตกแต่งข้างประตูและซุ้มล้อสีดำ ล้ออัลลอยสีทูโทนใหม่ขนาด 17 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่า เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่ใช้ล้อขนาด 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว ขณะที่ด้านหน้ารถปรับให้กว้างขึ้น 50 มม. ติดตั้งราวหลังคา และเสาอากาศครีบฉลามเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โดยรวมถือว่าออกแบบมาดูดี ด้านหน้ามีลูกเล่นของกระจังหน้าที่มีมิติ โคมไฟหน้า ไฟตัดหมอก แอลอีดี ดูหรูใช้ได้ ด้านหลังมีลูกเล่นในการออกแบบดูมีมิติ สวยงาม เสริมด้วยวัสดุเปียโนแบล็คที่ประตูท้าย กันชนหลังพร้อมแผงกันกระแทกขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนมุมมมองด้านข้าง การออกแบบเส้นสายต่างๆ ถือว่าสวยงามใช้ได้ แต่ผมว่ามุมมองด้านนี้ของรถยังคงให้อารมณ์ความรู้สึกถึงวามเป็นรถเอ็มพีวีมากกว่า
เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เป็นรถ 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวหน้ากับแถวที่ 2 กว้างขวาง นั่งสบาย และแถวที่ 2 สามารถดึงตรงกลางลงมาเป็นที่พักแขนได้หากนั่งแค่ 2 คน ส่วนเบาะแถวที่ 3 ไม่ใหญ่นัก แต่ก็นั่งได้ 2 คน ยังมีพื้นที่วางขา พื้นที่ว่างช่วงเข่า หากขยับเบาะแถวที่ 2 ขึ้นหน้าไปสักหน่อย
การเข้าออกแถวที่ 3 ทำได้สะดวก ต้องชมการออกแบบเบาะแถวที่ 2 ที่พับและยกส่วนเบาะรองก้นขึ้นไปติดกับเบาะแถวหน้าได้ เปิดทางให้ก้าวขึ้นลงเข้าออกง่ายขึ้น ทั้งนี้เบาะแถวที่ 2 นั้นสามารถพับได้แบบ 60:40 ส่วนแถวที่ 3 พับแยกแบบ 50:50 เมื่อพับแล้วเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มาก เหมาะกับการขนของ หรือว่า รองรับไลฟ์สไตล์ของหลายๆ คน เช่น ใส่จักรยานเข้าไปได้สบายๆ
ถ้าพับแค่แถว 3 พื้นที่บรรทุกสัมภาระถือว่าเยอะใช้ได้ ตอบสนองการเดินทางท่องเที่ยวไปค้างสักคืนสองคืนสำหรับคนสี่ห้าคน แต่ถ้าไม่พับเลย มีพื้นที่ไม่มากนัก
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบตอบสนองการใช้งานของคนจำนวนมาก มีช่องใส่แก้ว ใส่ขวดเยอะ มีช่องแอร์พร้อมแผงควบคุมที่หลังคาเหนือที่นั่งแถวกลาง มีจุดชารจไฟ 12 โวลต์ ทุกแถว
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานที่จะหาเจอได้ใน เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เช่น จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ มาตรวัดการขับขี่แบบ ไฮ คอนทราสต์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับวางสายโทรศัพท์และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ ครูส คอนโทรล
กุญแจ KOS และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ เครื่องเสียง รองรับดีวีดี ซีดี และเอ็มพี3 จอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว ซึ่งใช้แสดงภาพจากกล้องด้านหลักด้วย คุณภาพไม่ถึงกับคมจัด แต่ก็ชัดเจน
ส่วนระบบความปลอดภัยที่ให้มา เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ระบบป้องการลื่นไถล (TCL) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนคู่หน้า เป็นต้น
เครื่องยนต์กับเกียร์ เป็นตัวเดิม เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
คราวนี้ผมลองขับ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ราวๆ 500 กม. ในเส้นทางที่มีทั้งในกรุงเทพฯ และทางหลวง เส้นทางชนบท และเส้นทางเขาย่านมวกเหล็ก
เครื่องยนต์ให้กำลังพอตัว ใช้งานได้ แต่แน่นอนอาจจะไม่ทันอกทันใจ โดยเฉพาะเมื่อขึ้นทางชัน ซึ่งต้องกล้าที่จะกดคันเร่งลงไปหนักๆ หรือว่าคิกดาวน์ เพื่อเรียกกำลัง ซึ่งตรงนี้คงจะเป็นจุดอ่อนเดียวของเครื่องยนต์
แต่การขับขี่ทั่วไป แม้จะไม่ได้จี๊ดจ๊าดเร้าใจ แต่การใช้งานทั่วไปที่ความเร็วสัก 120 กม./ชม. หรือเกินกว่านี้สักหน่อยก็ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ตอบสนองการใช้งานได้ดี เร่งได้ เรียกกำลังได้ การเร่งแซงก็ทำได้ แ
และแม้ว่าจะถูกยกให้ใต้ท้องรถสูงขึ้นอีก 20 มม. แต่ก็ต้องยอมรับว่า เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เป็นรถที่มีช่วงล่างที่ดี นิ่ง ขับได้เพลินๆ ไม่รู้สึกเกร็งในการขับ การควบคุมพวงมาลัย ก็ง่ายๆ จับแค่หลวมๆ สบายๆ เท่านั้น ทำได้ดีครับ
การขับขี่ในเส้นทางเขา ทางโค้ง ช่วงล่างก็ทำได้ดีเช่นกัน มีความแม่นยำ ขณะที่การดูดซับแรงสั่นสะเทือนก็ทำได้ดีเช่นกัน นุ่มนวล แต่ว่ามีจังหวะโยนบ้างเล็กน้อย เมื่อผ่านเส้นทางที่ไม่เรียบเป็นคลื่นเป็นลอน แต่รับได้กับรถในตลาดนี้ครับ
ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงล่างแบบคานแข็ง หรือ ทอร์ชั่น บีมที่น่าพอใจ ส่วนด้านหน้านั้นเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างที่มีความสูงเพิ่มขึ้น ก็ทำให้มันมีความเอนกประสงค์มากขึ้น ออกไปขับเล่นนอกถนนบนทางดินทางฝุ่นสบายๆ
ส่วนเกียร์เกียร์ 4 สปีด แม้หลังๆ จะไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้ว ก็ทำงานได้ลื่นไหล ไม่สะดุด ไม่หน่วง จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ใช้ได้
กับรถที่มีราคา 8.99 แสนบาท เพิ่มขึ้นจาก เอ็กซ์แพนเดอร์ จีที 4 หมื่นบาท กับความสามารถในการใช้งานที่หลากหลาย นั่งได้เต็มที่ 7 คน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานห้องโดยสารหลากหลาย การขับขี่อยู่ในเกณฑ์ดี ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรถราคาไม่แรงที่สามารถใช้งานได้ทั้งส่วนตัวในชีวิตประจำวัน และใช้งานกับครอบครัวในช่วงวันหยุด หรือรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแต่ละคนครับ
