ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวรับ 1275 / 1265 จุด แนวต้าน 1305 / 1317 จุด ปัจจัยบวก คือ โมเมนตัมบวกของตลาดหุ้นโลก หลังมีความคืบหน้าในการพบวัคซีนรักษา COVID-19 ตัวใหม่ และการผ่อนคลาย lockdown ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอิงวัฏจักรเศรษฐกิจ และกลุ่มพลังงาน ส่วนปัจจัยลบ คือ แรงกดดันจีนต่อประเด็นต้นตอไวรัสจากการประชุมสหประชาชาติ

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

       1) ความคืบหน้าในการค้นพบวัคซีนใหม่ที่มีประสิทธิภาพรักษาไวรัสฯ เป็นปัจจัยบวกต่อการแรลลี่ของตลาดหุ้นโลกวานนี้

       2) เศรษฐกิจไทย 1Q20 GDP หดตัว -3.5% YoY หากหักรายการสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้น ต่ำกว่าประมาณการของตลาดเล็กน้อย

       3) แม้ธุรกิจจะกลับมาเปิดใหม่ แต่คาดว่ายอดขายจะลดลง เพราะ Capacity หายไป 50% จากมาตรการ Social Distancing

       4) จับตาครม. ตัดสินใจกรณี THAI วันนี้ คาดเลือกลดสัดส่วนถือหุ้นและเข้าสู่ศาลล้มละลายกลาง

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: Japan-Industrial Production เดือน มี.ค. คาด -3.7% MoM (Vs เดือน ก.พ. -0.3%) EU-ZEW Economic Sentiment เดือน พ.ค. คาด 29 (Vs เดือน เม.ย. 25.2) USA-Housing Starts เดือน เม.ย. คาด -30.1% MoM (Vs เดือน มี.ค. -22.3%) Building Permits เดือน เม.ย. คาด -28.9% MoM (Vs เดือน มี.ค. -7%), ประธานเฟด แถลงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภา

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทย: ดัชนีฯ ยืนในแดนบวกตลอดการซื้อขายในกรอบ 1283-1295 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1286.53 จุด +5.77 จุด วอลุ่ม 5.59 หมื่นล้านบาท กลุ่มปิโตรเคมี +4.53% พาณิชย์ +1.5% กลุ่มร่วงแรง รับเหมาฯ -3.89% หลักทรัพย์ที่ขึ้นแรง >4% ได้แก่ BANPU PTTGC IVL COM7 HMPRO PTG MEGA PRM DOHOME BCP ICHI CKP ส่วนหลักทรัพย์ที่ร่วงแรง THAI MINT STEC BH CK JMART

+ ตลาดหุ้นโลกพุ่งแรง: ความคืบหน้าในการพบวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 และการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJ +3.85 Nasdaq +2.44% S&P500 +3.15% ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นมากสุดรอบ 8 สัปดาห์ DAX +5.67% CAC40 +5.16% นำโดยกลุ่มอิงวัฏจักรเศรษฐกิจ เหมืองแร่ รถยนต์ น้ำมัน ฯลฯ

+ น้ำมันดิบพุ่งต่อและปิดสูงสุดตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.: WTI +USD2.39 +8.12% ปิด USD31.82/บาร์เรล Brent +USD2.31 +7.1 ปิดที่ USD34.81/บาร์เรล ขานรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown และแรงเก็งกาไรก่อนครบกาหนด WTI วันนี้

- ทองคำดิ่ง: ปิด USD1734.40/ออนซ์ -USD21.90 -1.25% จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update 18 พ.ค.: พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 4.7 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 3.18 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด1.5ล้านราย รองลงมา คือ รัสเซีย 2.9 แสนราย UK 2.43 แสนราย บราซิล 2.33 แสนราย ไทย: ศบค.รายงาน จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3 ราย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิต

+ USA: บ. Moderna รายงานความสำเร็จระยะที่ 1 ในการใช้วัคซีน mRNA-1273 รักษา COVID-19 โดยจะทดสอบระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อภายในเดือน ก.ค. หากสำเร็จจะสามารถพร้อมใช้ได้ต้นปีหน้า

- ไทย: 1Q20 GDP เติบโตแย่ลง แต่ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด -1.8% YoY (Vs คาดเติบโตเฉลี่ย -3.8% YoY และลดลงเทียบกับ 4Q19 ที่เติบโต +1.6% YoY) - สหประชาชาติ: จับตาร่างมติฯ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเรียกร้องให้มีกระบวนการสอบสวนต้นกำเนิดของไวรัส

+ กลุ่มธนาคาร: ธปท. เผยผลการดำเนินงานของธนาคารฯ ใน 1Q20 มีกำไรสุทธิ 52.9 พันล้านบาท เติบโต -7.3% YoY สินเชื่อทั้งระบบเติบโต 4.1% YoY NPL/Loan ที่ 3.05% (Vs 4Q19 ที่ 2.98%) ส่วนสัดส่วน Credit Risk Stage 2 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยเป็น 7.7%

- THAI: คนร. มีมติให้เสนอครม. แก้ไขปัญหา THAI โดยการยื่นศาลล้มละลายเพื่อฟื้นฟูกิจการ

+/- PSL: ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เวลาบ่าย 2 โมง ในวันนี้ เพื่อพิจารณาการขอเลื่อนชาระหนี้ออกไป

+/- MINT: ประชุมผู้ถือหุ้น เวลาบ่ายโมง ในวันนี้ เพื่ออนุมัติแผนเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วนไม่ต่ากว่า 6.45 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BTS TOP CRC

หุ้นแนะนำ Trading Buy: กลุ่มพลังงาน PTTEP PTT TOP กลุ่มปิโตรเคมี IVL กลุ่มค้าปลีก CPALL กลุ่มการเงิน KBANK TISCO SAWAD

Derivatives: แนะถือสถานะ Long S50M20 ที่เปิดไว้ตามคาแนะนาช่วงบ่ายวานนี้ (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)