WHAUP - ซื้อ

Event

Conference call.

lmpact

ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มอ่อนแอใน 1H63 ทั้งธุรกิจนํ้าในไทยและในเวียดนาม

ปริมาณยอดขายน้ำในประเทศไทยของ WHAUP มีแนวโน้มจะลดลงต่อเนื่อง YoY ใน 2Q63 เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ปิดโรงงานชั่วคราว (11% ของปริมาณยอดขายน้ำในปี 2562) และ ii) รัฐบาลใช้นโยบายให้ลดการใช้น้ำลง 10% ในขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานของ SDWTP (ธุรกิจน้ำในเวียดนาม) ก็ถูกกระทบจากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 โดยการก่อสร้างท่อส่งน้ำประปาช่วงสุดท้ายต้องหยุดชั่วคราวเนื่องจากมาตรการ lockdown ซึ่ง WHAUP คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยภายใน 1-2เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ อัตราการใช้กำลังการผลิตของ SDWTP ใน 1Q63 อยู่ที่ประมาณ 40-45% ซึ่งต่ำกว่าระดับ
breakeven ที่ 50-55% เราคาดว่า SDWTP จะถึงจุด breakeven ใน 3Q63

ปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2563 ลง 15.8% และปี 2564 ลง 16.0% เนื่องจาก GHECOOne และ SDWTP

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 15.8% และปี 2564 ลง 16.0% เนื่องจากเราปรับลดสมมติฐาน availability payment ของ GHECO-One ในปี 2563-64 ลง 35% นอกจากนี้ เรายังปรับลดสมมติฐานอัตราการใช้กำลังการผลิตของ SDWTP ปี 2563/2564 ลงจาก 65%/75% เหลือ 50% และ60% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงการเพิ่มปริมาณยอดขายได้ช้าเกินคาดเนื่องจากความล่าช้าในการก่อสร้างท่อส่งน้ำเพื่อขายให้กับผู้ใช้รายย่อย

แนวโน้มระยะกลางถึงยาวของธุรกิจนํ้ายังเหมือนเดิม

แม้ว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มอ่อนแอใน 1H63 และผลประกอบการจากธุรกิจหลักในปี 2563 น่าจะโตติดลบ แต่เราเชื่อว่า WHAUP ยังมีปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโต อย่างเช่น อุปสงค์ใหม่จากโรงไฟฟ้า IPPs และธุรกิจปิโตรเคมีในปี 2563-2565 (Figure 3) ในขณะเดียวกัน ธุรกิจน้ำในเวียดนามก็น่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นในระยะยาว

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ WHAUP และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2563 ที่ 6.90 บาท ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับลดลงมาแล้วถึง 19.6% YTD และเราเชื่อว่าราคาหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอใน 1H63 ไปเรียบร้อยแล้ว และคิดเป็น P/B ที่ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยระยะยาว -2 S.D. ซึ่งถือว่าถูกเมื่อ
เทียบกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2563 ที่ 4.6% และปี 2564 ที่ 4.7%

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่ การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่