BOI ผนึกแบงก์รัฐ หนุนมาตรการช่วยผู้ประกอบการ ลดผลกระทบโควิด-19

BOI ผนึกแบงก์รัฐ หนุนมาตรการช่วยผู้ประกอบการ ลดผลกระทบโควิด-19

บีโอไอ ผนึก 2 ธนาคารรัฐจัดสัมมนาออนไลน์ “ทางออก SMEs ไทย ฝ่าวิกฤติโควิด-19” เพิ่มโอกาสการเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นกิจการที่บีโอไอให้ความสำคัญและส่งเสริมมาโดยตลอด โดยกว่า 60% ของโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแต่ละปีเป็นเอสเอ็มอี

ในโอกาสนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือ ทั้งในส่วนของบีโอไอและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) เรื่อง “ทางออก SMEs ไทย ภายใต้วิกฤตโควิด-19” ในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 13.30-15.00 น.

ทั้งนี้จะมีการบรรยายเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งในส่วนของบีโอไอ และการสนับสนุนด้านสินเชื่อของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และมาตรการช่วยเหลือ SMEs ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย คาดว่าจะมีผู้ร่วมการสัมมนา จำนวน 200 คน ซึ่งสามารถลงทะเบียนผ่านลิงก์เสวนาออนไลน์ได้ที่ https://www.eventpassinsight.co/mobile/registration/create/tbiw1

สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเอสเอ็มอีไทย บีโอไอมีมาตรการให้สิทธิประโยชน์และผ่อนปรนเงื่อนไขเป็นพิเศษต่างจากกิจการทั่วไป ตั้งแต่วงเงินลงทุนขั้นต่ำสำหรับโครงการที่จะขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพียง 500,000 บาท (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน)

รวมทั้งการเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 2 เท่าจากเกณฑ์ปกติทั่วไป สำหรับกลุ่มกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 - 8 ปี (กลุ่ม A) รวมทั้งอนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้แล้วในประเทศมาใช้ในโครงการได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับกิจการบางประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของบีโอไอได้ง่ายขึ้น รวมทั้งให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่กิจการเอสเอ็มอีกรณีมีที่ตั้งในเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10 จังหวัด

ผู้ประกอบการที่เข้าข่ายเป็นเอสเอ็มอีตามมาตรการนี้ ต้องมีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี และต้องยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในปี 2564