ป.ป.ช. จ่อสอบปม ส.ส. ร้องล็อกสเปค 4 ถนน

ป.ป.ช. จ่อสอบปม ส.ส. ร้องล็อกสเปค 4 ถนน

ป.ป.ช. จังหวัด เรียกข้อมูล 4 โครงการสร้างถนนในมหาสารคาม หลัง 5 ส.ส.พรรคเพื่อไทยยื่นตรวจสอบ ขณะที่ ผอ.ทางหลวงจังหวัด เคลียร์ปมล็อกสเปค พร้อมให้สอบ

จากกรณี ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย 5 คน ประกอบด้วย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ประธานวิปฝ่ายค้าน) นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ และ นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ได้ร่วมกันยื่นหนังสือด่วนที่สุด เลขที่ 2858 ลงวันที่ 13 พ.ค.2563 ถึงนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าฯ มหาสารคาม

ขอให้ตรวจสอบการล็อกสเปค กีดกันการแข่งขันราคา ในการประกวดราคาในระบบ E-Bidding ของโครงการจ้างก่อสร้าง โครงการยกระดับมาตรฐานและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง เป็นการขยายถนนจาก 2 ช่องทางการจราจร เป็น 4 ช่องการจราจร จำนวน 4 โครงการ งบประมาณ 190 ล้านบาท โดยเป็นงบฯปี 2563 ของ จ.มหาสารคาม

โดยโครงการดังกล่าว ผู้ว่าฯ มหาสารคามได้มอบอำนาจให้กรมทางหลวง โดยนายไวพจน์ สำราญดี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงจังหวัดมหาสารคาม ปฏิบัติราชการแทน และมีการประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างถนน 4 โครงการ ประกอบด้วย

1.ถนนยกระดับมาตรฐานทาง สาย 2381 (นาเชือก-โพธิ์ทอง) ระยะทาง 2.50 กิโลเมตร(กม.) วงเงินทำสัญญา 50 ล้านบาท
2.ถนนยกระดับมาตรฐานทางสาย 2045 (หนองคูโคก-วาปีปทุม ) ระยะทาง 2 กม. วงเงิน 40 ล้านบาท
3.ถนนยกระดับมาตรฐานทางสาย 2040 (วาปีปทุม-พยัคฆภูมิพิสัย ) ระยะทาง 2.50 กม. วงเงิน 49 ล้านบาท
4.ถนนยกระดับมาตรฐานทางสาย 2040 (มหาสารคาม-วาปีปทุม ) ระยะทาง 2.50 กม. วงเงิน 49 ล้านบาท

โดยข้อร้องเรียน ระบุว่าการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 4 โครงการ ได้ผู้รับจ้างรายเดียวทั้งหมดคือ หจก.บรบือพรเทพ และลดราคาต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย คือ โครงการละ 15,000 บาท และยังพบว่าในประกาศประกวดราคาทั้ง 4 โครงการ ใช้ข้อกำหนด เพื่อกีดกันไม่ให้ผู้ประกอบการรับเหมาถนนรายอื่น ๆ ไม่สามารถยื่นซองประกวดราคาแข่งขันได้

จึงเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ มหาสารคาม ตรวจสอบความโปร่งใส และป้องกันการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560(พ.ร.บ.ฮั้ว) โดยขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน (ภายในวันที่ 20 พ.ค.63) พร้อมทั้งได้ยื่นเรื่องให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมทางหลวง ตรวจสอบด้วย

ความคืบหน้าล่าสุด นายไวพจน์ สำราญดี ผอ.แขวงทางหลวงจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งได้รับมอบอำนาจปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯ มหาสารคาม ชี้แจงประเด็นข้อร้องเรียนดังนี้ กรณีที่แรก ประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้เครื่อง Hot Recycling ในการล็อกสเปค เพราะถ้าบริษัทรับเหมาที่ไม่มีเครื่องมือดังกล่าว ก็ไม่สามารถยื่นซองได้

และการใช้เครื่องฮอต รีไซคลิง ก็ไม่เหมาะสมกับความเสียหายของถนนในพื้นที่ของ จ.มหาสารคาม เนื่องความเสียหายของพื้นผิวถนนรุนแรง ต้องซ่อมแซมถึงชั้นฐาน (Base) ของถนน ขอชี้แจงว่า ไม่มีการล็อกสเปคในงานบำรุงทางแบบ Hot-Mix In - Place Recycling เพราะมีผู้รับเหมาที่จดทะเบียนไว้ถึง 40 ราย ส่วนการใช้เครื่องฮอต รีไซคลิงยืนยันว่ามีความเหมาะสม เพราะมีการตรวจสอบความเสียหายถนนเดิมจากส่วนตรวจสอบและวิเคราะห์ทางวิศวกรรม ซึ่งจากการตรวจสอบความเสียหายยังไม่รุนแรงที่จะต้องซ่อมแซมถึงชั้นฐาน ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้ถึง 60%

ประเด็นที่สอง กรณีข้อร้องเรียนที่ว่า การกำหนดให้ต้องมีโรงงานผสมแอสฟัลต์คอนกรีต(Plant)รัศมี 100 กม.ถึงโครงการก่อสร้าง เป็นการกีดกันไม่ให้เกิดการแข่งขันจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ นายไวพจน์ ยืนยันว่า การกำหนดระยะทางเป็นไปตามมาตรฐานงานทาง (ทลม.)จากสำนักวิเคราะห์ และตรวจสอบที่ สว.4506/ลว. 25 พ.ย.2562 เพื่อให้สามารถควบคุมอุณหภูมิของส่วนผสมแอสฟัลต์คอนกรีตได้ตามกำหนด ให้เป็นไปตามมาตรฐานงานทางเดิมที่กำหนดไว้

นายไวพจน์ ยังชี้แจงในประเด็นที่สามและสี่ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตถึงการกำหนดให้ผู้ยื่นซองเสนอราคาจะต้องขึ้นทะเบียนเครื่องฮอต รีไซคลิง กับกรมทางหลวง เป็นการล็อกสเปคให้กับผู้ประกอบการรายหนึ่งรายใด ทั้งที่งานก่อสร้างของกรมทางหลวงเองก็ไม่เคยระบุเรื่องการขึ้นทะเบียนเครื่องฮอต รีไซคลิง กับกรมทางหลวง และประเด็นที่ระบุว่าในอดีตหลายปีที่ผ่านมา จ.มหาสารคาม เคยดำเนินการประกวดราคางานก่อสร้างถนนในลักษณะเดียวกันเหมือนกัน ต่อเนื่องกัน แต่ไม่เคยมีการระบุในเรื่องของเครื่องฮอต รีไซคลิง และโรงงานผสมแอสฟัลต์คอนกรีตรัศมี 100 กม.มาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นข้อกำหนดใหม่นั้น

นายไวพจน์ ชี้แจงว่า แขวงทางหลวงจังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาไว้ในทีโออาร์ และประกาศ คืองานก่อสร้างชั้นพิเศษ หรืองานก่อสร้างชั้นทาง 1-2 และงานบำรุงทางประเภท 5 งานบำรุงทางแบบ Hot Mix In - Place Recycling ซึ่งผู้เสนอราคาที่จดทะเบียนกับกรมทางหลวง มีดังนี้ ชั้นพิเศษ 65 ราย ชั้น 1 จำนวน 95 ราย และชั้นสอง 163 รายงานบำรุงทางประเภท 5 จำนวน 40 ราย ซึ่งผู้เสนอราคาเหล่านี้ สามารถเข้าเสนอราคาได้ทุกราย

ทั้งนี้ งานทั้ง 4 รายการ มีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว ซึ่งตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง และบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 39 วรรค 2 ได้ระบุไว้ว่า ในกรณีที่มีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว หากเห็นว่าราคาที่เสนอมีความเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ ให้เจ้าหน้าที่เสนอหัวหน้าหน่วยของรัฐ ผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อพิจารณารับราคาของผู้เสนอราคารายนั้นได้

นายไวพจน์ เปิดเผยด้วยว่า ล่าสุดได้มีหน่วยงาน ป.ป.ช.มหาสารคาม เพียงหน่วยงานเดียว ที่ทำหนังสือเข้ามาสอบถาม ซึ่งแขวงทางหลวงมหาสารคาม พร้อมให้ตรวจสอบ และชี้แจงข้อมูลได้