อัยการ ฟ้อง 'บรรยิน' กับพวก 9 ข้อหาคดีอุ้มพี่ชายผู้พิพากษา

อัยการ ฟ้อง 'บรรยิน' กับพวก 9 ข้อหาคดีอุ้มพี่ชายผู้พิพากษา

อัยการฟ้อง "บรรยิน" กับพวกรวม 6 คน คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนพ่วงข้อหาอุกฉกรรจ์อื่นๆ อีกรวม 9 ข้อหา

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต มีความเห็นให้สั่งฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ นายมานัส ทับทิม นายณรงศักดิ์ ป้อมจันทร์ นายชาติชาย เมณฑ์กุล นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข และด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ ผู้ถูกกล่าวหาในคดีอุ้มฆ่า นายวีรชัย สกุนตะประเสริฐ พี่ชายของ น.ส.พนิดา สกุนตะประเสริฐ ทั้งสิ้น 9 ข้อหา ประกอบด้วย

1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

2. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้ใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอาตัวไปถึงแก่ความตาย

3. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

4. ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป

5. เป็นซ่องโจรโดยสมคบกันเพื่อกระทำผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต

6. ร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป

7. ร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายและสาเหตุการตาย

8. ร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเพื่ออำพรางคดี

9. ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน

ทั้งนี้ เฉพาะ พ.ต.ท.บรรยิน ถูกฟ้องเพิ่มเติมในข้อหา สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน เพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิและแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิเพื่อกระทำผิดอาญา อีกด้วย นอกจากนี้ พนักงานอัยการยังขอให้นับโทษ พ.ต.ท.บรรยิน ต่อจากโทษจำคุกของศาลอาญากรุงเทพใต้ ในคดีหมายเลขคดีแดงที่ 636/2563 ที่ศาลลงโทษจำคุก พ.ต.ท.บรรยิน ในคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นเสี่ยชูวงศ์และนับโทษต่อจากโทษในคดีหมายเลขคดีดำที่ 4915/2559 ของศาลอาญาพระโขนง ซึ่งพนักงานอัยการฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน ข้อหาฆ่าเสี่ยชูวงศ์ โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอีกด้วย

นายประยุทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกทั้ง 6 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้วในวันนี้ ซึ่งคดีนี้พนักงานอัยการไม่ต้องส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 เพราะผู้ต้องหาถูกควบคุมอยู่ในอำนาจศาลแล้ว ขั้นตอนต่อไปตามกฎหมาย ศาลจะเบิกตัวจำเลยมาสอบคำให้การว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ซึ่งคดีนี้ไม่ว่าจำเลย จะให้การอย่างไร พนักงานอัยการก็ต้องสืบพยานเพราะเป็นคดีมีโทษประหารชีวิต สำหรับคดีนี้แม้เป็นคดีฆาตกรรมแต่ทางคดีมีข้อหาข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบต่อหน้าที่รวมอยู่ด้วย คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ตาม พรบ. จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพ.ศ. 2559 มาตรา 3 พนักงานอัยการจึงมีอำนาจฟ้องรวมทุกข้อหาในคดีนี้ต่อศาลดังกล่าว