'ซูเปอร์โพล' เผยนักการเมืองแย่งเก้าอี้ ฉุดแรงสนับสนุนลงฮวบ

'ซูเปอร์โพล' เผยนักการเมืองแย่งเก้าอี้ ฉุดแรงสนับสนุนลงฮวบ

"ซูเปอร์โพล" ชี้รัฐบาลมีฐานที่เปราะบาง ยังไม่สามารถกระชากใจเยาวชนมาหนุนได้ ยี้นักการเมืองแย่งเก้าอี้ ทำคนสนับสนุนลดฮวบ

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.63  นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ฐานที่เปราะบาง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Method) ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 2,021 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 13 - 16 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา 

เมื่อพิจารณาแนวโน้มฐานจุดยืนทางการเมืองของประชาชนตั้งแต่ กรกฎาคม พ.ศ.2562 ถึง ช่วงเหตุวุ่น ๆ ในรัฐบาล พบว่า ฐานสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลลดฮวบลงอย่างรวดเร็วจากร้อยละ 46.9 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 36.1 เพราะความวุ่นวาย ความขัดแย้ง แย่งตำแหน่งในรัฐบาลในช่วงวิกฤตโควิด-19 บนความทุกข์ยากของประชาชน ในขณะที่ กลุ่มคนไม่สนับสนุนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.0 มาอยู่ที่ร้อยละ 34.1 และแม้แต่ฐานกลุ่มพลังเงียบก็ลดลงจากร้อยละ 31.1 เหลือร้อยละ 29.8 แต่ไปเพิ่มในฐานกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล

158970141954

เมื่อจำแนกฐานสนับสนุนรัฐบาล ไม่สนับสนุนรัฐบาล และพลังเงียบออกตามเพศ พบว่า ชาย กับ หญิงมีสัดส่วนไม่แตกต่างกันคือ ร้อยละ 35.6 ของชาย และร้อยละ 36.6 ของหญิงสนับสนุนรัฐบาล แต่กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล พบชายร้อยละ 41.8 หญิงร้อยละ 26.9 แสดงให้เห็นว่าชายไม่สนับสนุนรัฐบาลมากกว่าหญิง ในขณะที่กลุ่มพลังเงียบ พบชายร้อยละ 22.6 หญิงร้อยละ 36.5 แสดงว่าหญิงเป็นพลังเงียบมากกว่าชาย

เมื่อแบ่งกลุ่มออกตามช่วงอายุในฐานสนับสนุนรัฐบาล พบคนอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นฐานสนับสนุนรัฐบาลที่มากที่สุดคือร้อยละ 48.7 แต่กลุ่มเยาวชนคืออายุไม่เกิน 24 ปีมีเพียงร้อยละ 10.9 เท่านั้นที่สนับสนุนรัฐบาล แต่กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล พบเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปีส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.9 ไม่สนับสนุนรัฐบาล และกลุ่มอายุ 24 – 39 ปีร้อยละ 49.0 ไม่สนับสนุนรัฐบาลเช่นกัน ในขณะที่กลุ่มคนอายุ 40 – 59 ปีร้อยละ 27.6 และอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 31.1 ที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล อย่างไรก็ตาม กลุ่มพลังเงียบพบเยาวชนจำนวนมากหรือร้อยละ 30.2 กลุ่มอายุ 25 – 39 ปีร้อยละ 29.3 กลุ่ม 40 – 49 ปีร้อยละ 33.5 และกลุ่มอายุ  60 ปีขึ้นร้อยละ 20.2 ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ ระหว่าง ยี้ กับ รับได้ความขัดแย้งวุ่นวายทางการเมือง แย่งตำแหน่ง แย่งเก้าอี้ แบ่งพรรคแบ่งพวก ต้นเหตุขัดแย้ง จำแนกตาม ฐานสนับสนุนรัฐบาล ไม่สนับสนุนรัฐบาล และพลังเงียบ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในทุกกลุ่มฐานจุดยืนการเมือง ยี้ นักการเมืองแย่งเก้าอี้ ต้นเหตุขัดแย้งวุ่นวายทางการเมืองคือ ร้อยละ 94.5 ของกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 82.9 ของกลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล และร้อยละ 92.1 ของกลุ่มพลังเงียบ ยี้ บรรดานักการเมืองแย่งเก้าอี้ ต้นเหตุขัดแย้งวุ่นวาย

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ฐานสนับสนุนของรัฐบาลยังเปราะบางอยู่มากโดยเห็นได้ชัดว่ากลุ่มเยาวชนส่วนใหญ่ยังไม่สนับสนุนรัฐบาลคือยังไม่มีอะไรที่ทำแล้วโดนใจพวกเขาหรือแม้แต่กลุ่มคนสูงอายุสัดส่วนที่ไม่สนับสนุนก็ไม่น้อยคือเกือบ 1 ใน 3 ดังนั้นฐานที่เปราะบางเช่นนี้จึงทำให้กลุ่มคนสนับสนุนลดฮวบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเรื่องที่ละเอียดอ่อนไหวต่ออารมณ์ของประชาชนเพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ปักใจอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพวกเขายี้หรือรับไม่ได้กับพฤติกรรมกระหายตำแหน่งหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง แทนที่จะก้มหน้าก้มตาทำงานหนักช่วยเหลือเยียวยาทุกข์ของประชาชนช่วงโควิด-19 และวิกฤตอื่น ๆ 

“จากข้อมูลผลสำรวจครั้งนี้จึงเสนอแนะให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองผู้มีบารมีสูง ๆ ทั้งที่เป็นรัฐบาลและไม่ใช่รัฐบาลร่วมกับภาคประชาสังคมได้ช่วยสกัดกั้นอย่าให้คนไม่ดีขึ้นปกครองบ้านเมืองแต่ขอให้ส่งเสริมคนดีมีอำนาจแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทำไมไม่ช่วยกันควบคุมดูแลสถานการณ์และรักษาสถานภาพเดิม (Status Quo) ของการขับเคลื่อนประเทศเอาไว้” ดร.นพดล กล่าว