เกาะติด 'จีดีพี-ดอกเบี้ย' กดตลาดหุ้นผันผวน

เกาะติด 'จีดีพี-ดอกเบี้ย' กดตลาดหุ้นผันผวน

สัปดาห์นี้ค่าเงินบาทแข็งค่า เมื่อเทียบกับดอลลาร์ สวนทางค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แม้หลายประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แต่นักลงทุนก็ยังมีความวิตกว่า “โควิด-19” จะระบาดรอบสอง

สำหรับในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า  “ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย” คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.90-32.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องติดตามการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยไตรมาส 1 ปี 2563 ในวันจันทร์ที่ 18 พ.ค.นี้ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธที่ 20 พ.ค.

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (15 พ.ค) ปิดการซื้อขายที่ 1,280.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.36 จุด หรือ 0.03% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 50,714.52 ล้านบาท ด้าน “บล.ทรีนีตี้” ระบุว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ดัชนีฯน่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยมี 2 ประเด็นสำคัญของปัจจัยภายในประเทศที่จะมีผลต่อการปรับตัวของดัชนีฯ ได้แก่ การประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกของไทยในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ซึ่งกลุ่มนักวิเคราะห์คาดว่าจะติดลบ 3.8% รวมถึงให้จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ในวันที่ 20 พ.ค.2563 ซึ่งยังมีแนวโน้มคาดการณ์จะปรับลดหรือไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในรอบนี้สัดส่วนประมาณ 50% ต่อ 50%  ทั้งนี้ประเมินกรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ 1,230-1,320 จุด

ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,736.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 26,300 บาทต่อบาททองคำ ด้าน “วายแอลจี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล” ระบุว่า เบื้องต้นราคาทองคำทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับสูง แนะนําให้นักลงทุนรอดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านบริเวณ 1,739-1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ โดยอาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทํากำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัวขึ้น หากการอ่อนตัวลง และสามารถเหนือโซน 1,720-1,709 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้