ไทยจ่อโดนตัดจีเอสพีข้าว 6 รายการ

ไทยจ่อโดนตัดจีเอสพีข้าว 6 รายการ

สหรัฐฯ เตรียมประกาศตัดจีเอสพีข้าว 6 รายการ รวมข้าวนึ่งที่ให้กับทั่วโลก แต่คืนสิทธิดอกกุลหลาบตัดสด 4 รายการ ด้านกรมการค้าต่างประเทศ ยื่นคำร้องขอยกเว้นไม่ตัดสิทธิสินค้าไทย 2 รายการ และขอคืนสิทธิ 23 สินค้า คาดรู้ผล มิ.ย.นี้

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมได้ยื่นคำร้องขอยกเว้นการถูกตัดสิทธิในสินค้าปลาแช่แข็ง และดอกกล้วยไม้ หลังจากที่พบว่า ส่วนแบ่งตลาด และมูลค่าการส่งออกของไทยกำลังจะเกินเพดานที่สหรัฐฯกำหนด แต่ไทยชี้แจงว่า สินค้าดังกล่าวมีความสำคัญกับเกษตรกรไทยมาก และการได้รับสิทธิจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรของไทย

ขณะเดียวกัน ได้ยื่นคำร้องขอคืนสิทธิในสินค้า 23 รายการ ที่สหรัฐฯตัดสิทธิไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น ปลาแม็คเคอเรล, ลิ้นจี่ ลำไย มะละกอแปรรูป, ข้าวโพดหวานแปรรูป เป็นต้น โดยคาดว่าผู้แทนการค้าสหรัฐฯ( ยูเอสทีอาร์) จะประกาศผลการพิจารณาประมาณเดือนพ.ย.63 อย่างไรก็ตาม คาดว่า ไทยจะได้รับการคืนสิทธิในสินค้าดอกกุลหลาบตัดสด ตามที่ภาคเอกชนของสหรัฐฯยื่นคำร้อง

ส่วนกรณีที่ยูเอสทีอาร์อยู่ระหว่างพิจารณาตัดสิทธิในสินค้าข้าว 6 รายการนั้น ปัจจุบัน มีเพียงข้าวนึ่งเท่านั้นที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯโดยใช้สิทธิจีเอสพี แต่ส่งออกปริมาณ และมูลค่าน้อยมาก หากสหรัฐฯตัดสิทธิจีเอสพีจริง ไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

“กรมได้หารือกับผู้ส่งออกในเรื่องนี้แล้ว ผู้ส่งออกบอกว่า ถ้าถูกตัดสิทธิจริง ก็ไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก เพราะส่งออกไปน้อยมาก โดยแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปสหรัฐฯประมาณ 500,000 ตัน ซึ่ง 90%เป็นข้าวหอมมะลิ ที่เหลือเป็นข้าวเหนียว ส่วนข้าวนึ่งแค่ 1%เท่านั้น อีกทั้ง ถ้าถูกตัดสิทธิจะทำให้ต้องกลับไปเสียภาษีที่ 11.2%ซึ่งผู้ส่งออกบอกว่าไม่มากนัก”

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า แต่ละปี ไทยส่งออกข้าวนึ่งไปสหรัฐฯเพียง 200 ตัน จากปริมาณข้าวที่ไทยส่งออกไปสหรัฐฯปีละ 500,000 ตัน หากตัดสิทธิจริง ไทยก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยการที่สหรัฐฯจะตัดสิทธิจีเอสพีข้าวนึ่ง น่าจะต้องการปกป้องเกษตรกร และผู้ผลิตข้าวของสหรัฐฯ ที่มีการผลิตและส่งออกข้าวนึ่งด้วย โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปตลาดตะวันออกกลาง สำหรับราคาส่งออกข้าวไทยล่าสุดเดือนพ.ค.นี้ ลดลงจากช่วงเดือนก.พ.-เม.ย.63 เล็กน้อย เพราะช่วงดังกล่าว ประเทศต่างๆ เร่งซื้อเพื่อสำรองไว้ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ประกอบกับ เวียดนามจำกัดการส่งออก และหยุดส่งออกชั่วคราว ทำให้คำสั่งซื้อมาที่ไทย แต่หลังจากเวียดนามกลับมาส่งออกได้อีก และหลายประเทศชะลอการนำเข้าแล้ว ราคาจึงลดลง โดยราคาข้าวขาว 5%อยู่ที่ตันละ 500 ดอลลาร์ ลดจาก 550 ดอลลาร์ ส่วนข้าวหอมมะลิ ตันละ 900-950 ดอลลาร์ลดจาก 1,050 ดอลลาร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ยูเอสทีอาร์ อยู่ระหว่างการทบทวนโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ประจำปี 63 ซึ่งเป็นการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขรายการสินค้าที่ให้สิทธิแก่ประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาน้อยที่สุดใน 10 รายการ โดยเปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจนถึงวันที่ 27 พ.ค.นี้ ขณะเดียวกัน จะพิจารณาตัดสิทธิจีเอสพีในสินค้าข้าว 6 รายการ เช่น ข้าวเปลือก ข้าวกล้อง ข้าวนึ่ง ปลายข้าว เป็นต้น ตามที่สมาพันธ์ข้าวแห่งสหรัฐฯ(USA Rice Federation)ได้ยื่นคำร้องขอให้ตัดสิทธิ์ รวมถึงจะพิจารณาคืนสิทธิให้กับสินค้าดอกกุหลาบตัดสด 4 รายการ ตามคำร้องของSociety of American Floristsโดยจะเปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.- 5 มิ.ย.63