สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 11-15 พฤษภาคม 2563

สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 11-15 พฤษภาคม 2563

เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากการทยอยปลดล็อกเศรษฐกิจ

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาททยอยแข็งค่า และเข้าแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่ 32.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ สัญญาณเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากข้อมูลเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ที่ติดลบมากสุดในรอบ 11 ปีที่ -0.8% จากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ช่วงแข็งค่าของเงินบาทจำกัดลงบางส่วน หลังนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิพันธบัตรไทยในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้นได้เล็กน้อย หลังประธานเฟด ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะไม่มีการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ  

- ในวันศุกร์ (15 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.08 เทียบกับระดับ 32.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 พ.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.90-32.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญในประเทศ ได้แก่ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/63 ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. และตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนเม.ย. ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 28-29 เม.ย. นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามการรายงานดัชนี PMI เดือนพ.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงสัญญาณที่สะท้อนความเสี่ยงของการระบาดรอบสอง หลังการเปิดเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,280.76 จุด เพิ่มขึ้น 1.16% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 55,150.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.05% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.87% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 263.69 จุด  

- ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ตามการทยอยปลดล็อกเศรษฐกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ ก่อนจะร่วงลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดซ้ำของโควิด-19 ในบางประเทศที่ได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงขายตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังจากที่นักลงทุนกลับมากังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกในภาพรวม อย่างไรก็ดี การพิจารณาคลายล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศระยะที่ 2 หลังการระบาดของโควิด-19 ในประเทศชะลอลงต่อเนื่อง ช่วยจำกัดช่วงลบของหุ้นไทยในช่วงปลายสัปดาห์  

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,270 และ 1,250 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,325 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/63 ของไทย การประชุมกนง. (20 พ.ค.) สถานการณ์โควิด-19 สถานการณ์หลังการทยอยปลดล็อกเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.  รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนพ.ค. (เบื้องต้น) ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/63 ของญี่ปุ่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนพ.ค. ของจีน รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนพ.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน