'หมอบุญ' วิเคราะห์ 'อสังหาฯ' ซึมยาว !

'หมอบุญ' วิเคราะห์ 'อสังหาฯ' ซึมยาว !

ริมถนนนักลงทุน เสิร์ฟความเคลื่อนไหวแวดวงตลาดหุ้น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งความเคลื่อนไหวน่าสนใจ ยกให้การวิเคราะห์ 'ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์' ของ 'หมอบุญ วนาสิน' ที่บอกว่า 'ปีนี้ตกอยู่ในภาวะซึมยาว และอาจมีโอกาสเห็นการควบรวม (M&A) หรือล้มสลาย'

เศรษฐกิจเมืองไทยจะ 'ทรุด' ต่อไปอีก 3-4 ปี (นับจากปี 2563) 'หมอบุญ วนาสิน' นักธุรกิจรุ่นลายครามและเจ้าของ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG เชื่อเช่นนั้น ! สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นแรงกระตุ้นให้เศรษฐกิจแย่เร็วกว่าเดิม จากเดิมที่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยอ่อนแออยู่แล้ว 'นักธุรกิจรุ่นลายคราม' ย้ำว่า กลุ่มธุรกิจที่น่าเป็นห่วงสุดจะเป็น SME เพราะว่าจะขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

 'หมอบุญ' บอกต่อว่า อีกหนึ่งธุรกิจที่ส่อแวว 'แย่ !' คือ 'อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์' หมอบุญมองในมุมของนักลงทุนที่อยู่ในตลาดหุ้นมานาน ถึงกับเอ่ยปากว่า 'ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้ตกอยู่ในภาวะซึมลากยาวไปอีกหลายปี และอาจจะมีโอกาสเห็นการควบรวม (M&A) หรือแม้แต่อาจจะเห็นการล้มหายของผู้ประกอบการอสังหาฯ ก็ได้'  อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาฯ บางบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งยังประคับประคองธุรกิจผ่านพ้นไปได้

อย่างไรก็ตาม 'หมอบุญ' เชื่อว่า สถาการณ์และทุกคนจะกลับมาใช้ชีวิตปกติต้องขึ้นอยู่ใน 2 เหตุหลัก คือ 1.เชื้อโรคอ่อนแอลง ตามทฤษฎีโรคที่รุนแรงจะกลายพันธ์อ่อนตัวลง ประกอบการวินิจฉัยโรคได้รวดเร็ว ซึ่งจะทำให้พบคนติดเชื้อได้เร็วขึ้นและจำกัดการแพร่ระบาดได้ และ2. ต้องมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ในมุมมองส่วนตัวเชื้อไวรัสโควิด-19 มีลักษณะคล้ายๆ ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ฉะนั้น การพัฒนาวัคซีนจะยาก !  

158953190924

หมอบุญ วนาสิน

โชว์ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2536 แบบสวยงาม สำหรับ 'กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี' นายหญิง บมจ. ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง หรือ TPCH หลังโกยกำไรสุทธิ 85.72 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 'หญิงเก่ง' บอกสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นมาจากบริษัทสามารถรับรู้รายได้ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ครบทั้ง 6 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์

ขณะที่มือขาวคนสนิทอย่าง 'เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล' เอ็มดีหนุ่ม TPCH ย้ำแผนธุรกิจว่า คงเป้าหมายในการมีใบอนุญาตในการขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพ และโรงไฟฟ้าขยะ ให้ครบ 250 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพ 200 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีอยู่ 110 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะที่ 50 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ที่ 10 เมกะวัตต์ จากการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและโรงไฟฟ้าขยะชุมชน เพื่อผลักดันให้รายได้และกำไรเติบโต !

ความผันผวนของเศรษฐกิจยังสูง สินทรัพย์ประเภทเสี่ยงสูงก็ผันผวนเฉกเช่นกัน นักลงทุนจึงลดความเสี่ยงดังกล่าวหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ อย่าง 'ทองคำ' สอดคล้องกับ 'ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล' ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือนพ.ค.2563 ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จากระดับ 67.93 จุด มาอยู่ที่ระดับ 68.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.40 จุด หรือคิดเป็น 0.59%

๐ 'ดร.พิบูลย์ฤทธิ์' ย้ำว่าปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมานั้น มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยการปรับขึ้นของดัชนีฯ ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 อย่างไรก็ตาม การลงทุนทองคำในเดือน พ.ค. 2563 'ผู้ค้าทองคำรายใหญ่' ให้ความเห็นว่าราคาทองคำในเดือนที่ผ่านมาสร้างสถิติสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีครึ่ง แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แต่ยังคงพยายามรักษาระดับไว้ได้ !

สถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนเริ่มคลี่คลาย ส่งผลยอดคำสั่งซื้อ 'ปรับตัวขึ้น !' งานนี้ 'อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์' แม่ทัพใหญ่ บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN เผยตั้งแต่เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ยอดคำสั่งซื้อจากประเทศจีนเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น การกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายในมณฑลต่าง ๆ ของจีนทำได้ดีขึ้น และคาดการณ์ว่าส่งผลดีต่อเนื่องกับการดำเนินงานไตรมาส  2 ปี 2563

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 'หนุ่มต๊อบ-อิทธิพันธ์' โชว์กำไรสุทธิ 85.7 ล้านบาท เติบโต 5.3% % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการควบคุมต้นทุนทั้งด้านการผลิตและการจัดจำหน่าย รวมถึงยอดขายของบริษัทในเครือที่สหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตและลดผลขาดทุนลงอย่างชัดเจน ด้าน 'รายได้' 1,110 ล้านบาท  ลดลง 13.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 !

158953185440

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์

เป็นหนึ่งใน 20 มหาเศรษฐีที่รัฐบาลส่งจดหมายถึง ! 'เฮียชูชาติ เพ็ชรอำไพ' หุ้นใหญ่ บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC ล่าสุดโชว์ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 'กำไรสุทธิ' 1,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.08% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่พอร์ตสินเชื่อพุ่ง 62,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.61%  งานนี้ 'เฮียชูชาติ' ย้ำเป้าปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อเติบโต 20-25% ตามเป้าชัวร์ ! หนุนผลงานสร้าง 'สถิติสูงสุดใหม่' อีกครั้ง พร้อมลุยมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสนองนโยบายรัฐ

โชว์ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 กำไรสุทธิ 168.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.56% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับ 'สาธิต สุดบรรทัด' ซีอีโอ บมจ. ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT เผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น มาจากการบริหารต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วยอยู่ใน 'ระดับต่ำ' โดยสามารถรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าเฉลี่ยมากกว่า 90% ของกำลังการผลิตรวม และบริหาร Product Mix หรือสัดส่วนการขายสินค้าได้ดีช่วยสนับสนุนอัตราการทำกำไรขั้นต้นได้ตามแผนงาน