ศึกชิงหัวหน้าพรรค 'อุตตม' ลั่นไม่ทิ้งเก้าอี้ผู้นำพลังประชารัฐ

ศึกชิงหัวหน้าพรรค 'อุตตม' ลั่นไม่ทิ้งเก้าอี้ผู้นำพลังประชารัฐ

"อุตตม" เมินไขก๊อกพ้น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลุยงานต่อ เผยนายกฯกำชับงานมาก่อน ขณะที่ "ประวิตร" ปัดล็อบบี้ กก.บห. ดันขึ้นผู้นำพรรค "สุริยะ-ธรรมนัส" ไม่ทิ้งตำแหน่งพรรค

จากกรณีกลุ่มสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พยายามรวบรวมเสียงให้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ลาออกเกินครึ่งหนึ่งของ กก.บห.ทั้งหมด 34 คน เพื่อให้ กก.บห. สิ้นสภาพ โดยมีจำนวน กก.บห. กลุ่มสนับสนุน พล.อ.ประวิตร 17 เสียง และกลุ่มสนับสนุนนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง หัวหน้าพรรค พปชร. มีจำนวน 17 เสียงเท่ากัน

โดยมีกระแสข่าวระบุว่าแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ย้ายมาสนับสนุน พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. โดยตัดสินใจยื่นใบลาออกจาก กก.บห. พรรคแล้ว

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า ตนเองเป็นคนโทรศัพท์ประสานให้กรรมการบริหารพรรค รวมถึงนายอุตตม โดยยืนยันว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่มีการพูดคุยใดๆ กับกรรมการบริหารพรรค ขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพราะการพูดคุยกับนายกฯ แต่ละครั้ง มีเพียงเรื่องงานเท่านั้น

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า กระแสข่าวที่ตนยื่นใบลาออกจาก กก.บห. เป็นข่าวมั่ว ตนยังไม่ได้ยื่นใบลาออกตามที่เป็นข่าว การยื่นใบลาออกจะต้องยื่นกับหัวหน้าพรรค หรือเลขาฯพรรคเท่านั้น

รวมถึงกระแสที่ว่านายอุตตม รมว.คลัง ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธ์ศาสตร์พรรค พปชร.ไปทำหน้าที่แทนก็ไม่เป็นความจริง ข่าวที่ออกมาถือว่าผิดเพี้ยนมาก

“อุตตม”ปัดลาออกหัวหน้าพปชร.

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวนายอุตตม ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคพปชร.ว่า “ไม่รู้ไม่ชี้ ให้ไปถามเจ้าตัวเอง ข่าวจริงหรือไม่ก็ยังไม่รู้”
ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ชี้แจงกระแสข่าวว่าลาออกจากหัวหน้าพรรค พปชร. โดยยืนยันว่า ยังนั่งในตำแหน่ง และไม่ได้ลาออก "โดยสภาพผมยังเหมือนเดิม วันนี้ ข่าวก็คือข่าว เรียนตามข้อเท็จจริง ผมยังทำงานเหมือนเดิม เรื่องของพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแรงกดดันให้ลาออกจริงหรือไม่ เขากล่าวว่า เป็นอย่างที่เห็น ไม่มีอะไรมากในเรื่องนั้น เรื่องของพรรคก็เดินไปตามนั้น ยืนยัน กระแสข่าวจะไม่กระทบต่อการทำงาน ซึ่งตนจะทำงานอย่างเต็มที่ แม้เสถียรภาพการเมืองจะถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ แต่เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดูแล และต้องทำงานให้กับประชาชนได้ ท่านนายกรัฐมนตรีเองก็บอกว่า วันนี้ จะต้องเอาเรื่องงานมานำเรื่องอื่น

“ธรรมนัส-สุริยะ”ไม่ทิ้งกก.บห.

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง และโฆษกพรรคพปชร. เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตนได้สอบถามนายอุตตมแล้ว นายอุตตมยังคงทำหน้าที่ทั้งในพรรคและในครม.ต่อไป ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้กำลังใจและชี้แนะ ภายหลังได้เข้าพบเมื่อวันก่อน

ส่วน กก.บห. คนอื่นไม่ว่าจะเป็น ร.อ.ธรรมนัส หรือนายสุริยะ เท่าที่ทราบก็ยังไม่ได้ลาออก สถานการณ์ภายในพรรคยังเป็นปกติดี

นายธนกร กล่าวอีกว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค และใน ครม. เพราะทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาโควิด-19 ให้กับพี่น้องประชาชนก่อน แม้ว่าตัวเลขของผู้ป่วยรายใหม่จะไม่มี และรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังวางใจไม่ได้ รัฐบาลยังต้องทำงานหนักต่อไป ดังนั้นตนมองว่า ภายในพรรคต้องมีความเป็นเอกภาพ เป็นหนึ่งเดียวกัน

โดยพรรค พปชร.มี พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร เป็นศูนย์กลางในพรรค และมีนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาฯพรรค ขับเคลื่อนการทำงานในพรรคอย่างเป็นระบบไปสู่ทิศทางที่ประชาชนคาดหวัง ซึ่งที่ผ่านมาทั้งนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ต่างทุ่มเททำงานให้กับพรรคอย่างเต็มที่มาตลอด

จัด“สายตรวจ-ตั้งด่าน”สกัดเลเซอร์

ทางด้านความคืบหน้ากรณียิงเลเซอร์ข้อความตามหาความจริง ล่าสุด วันนี้ 14 พ.ค.63 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เปิดเผยว่า เตรียมดูแลสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง หลังจากที่มีผู้นำเครื่องฉายเลเซอร์ไปฉายข้อความเชิงสัญลักษณ์ใน 5 สถานที่ โดยสั่งการให้มีการจัดชุดสายตรวจ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ประสานจิตอาสา และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ช่วยสอดส่องดูแลแล้ว

ส่วนเรื่องการใช้แสงเลเซอร์ยิงเข้าไปในอาคาร หากเป็นการฉายแสงเข้าไปในที่ ที่มีผู้พักอาศัย ก็อาจเป็นการรบกวนก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญได้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ผบช.น. ระบุด้วยว่า สำหรับข้อความที่ปรากฏอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ใดหรือองค์กรใดหรือไม่

จ่อจับเพิ่มรวมตัวรำลึก“เสธ.แดง”

จากกรณีมีกลุ่มคนรวมตัวจัดกิจกรรมรำลึกเหตุยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” ครบรอบ 10 ปี ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสีลม ฝั่งสวนลุมพินี พื้นที่รับผิดชอบของตำรวจ สน.ลุมพินี โดยตำรวจได้ดำเนินคดีนายอนุรักษ์ เจนตวณิชย์ หรือ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ฝ่าฝืนข้อบังคับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จัดกิจกรรมให้มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมประชุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้โดยง่าย

ขณะที่นายอนุรักษ์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาในชั้นพนักงานสอบสวนและขอต่อสู้คดี โดยใช้หลักทรัพย์ประกันตัว 3 หมื่นบาท

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐาน เอาผิดผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมในกิจกรรมดังกล่าว ตามกระบวนการกฎหมาย โดยล่าสุด วานนี้(14พ.ค.) พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับทางนายอนุรักษ์ หรือฟอร์ด เพียงคนเดียว ซึ่งได้ประกันตัวไปแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินคดีกับใครเพิ่มเติมอีกนั้น ต้องปรึกษาทางผู้บังคับบัญชาก่อน พร้อมกันนี้ สน.ลุมพินี ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวน ตรวจสอบคดีดังกล่าวด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน