'ออนไลน์-โควิด19' ดัน คนแห่ใช้ โมบาย เซอร์วิส พุ่ง

'ออนไลน์-โควิด19' ดัน คนแห่ใช้ โมบาย เซอร์วิส พุ่ง

เอ็มจี เร่งเพิ่มจำนวนรถให้บริการ ล่าสุดรวม 91 คัน

เอ็มจี ออกมาเปิดเผยว่า ปัจจุบัน พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก และยังมีไลฟ์สไตล์ที่ผูกติดอยู่กับโลกออนไลน์จำนวนมากเช่นกัน ผู้คนนิยมความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และสิ่งที่ช่วยให้ประหยัดเวลาได้ 

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยังส่งผลให้วิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนไป มีการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า นิว นอร์มัล กันมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้พบว่าบริการ เช็คระยะและตรวจสภาพนอกสถานที่ หรือ เอ็มจี โมบาย เซอร์วิส ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึง 35% และเชื่อว่าจากนี้ไป แนวทางนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นในฐานะผุ้ประกอบการ ก็จะต้องปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 

ล่าสุดพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สิ่งที่เอ็มจีกำลังทำในขณะนี้ก็คือ การเสริมบริการ โมบาย เซอร์วิส ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มจำนวนรถให้มากขึ้น ล่าสุดนำรถปิกอัพ เอ็มจี เอ็กซ์แทนเดอร์ มาให้บริการ ทำให้ขณะนี้มีรถให้บริการแล้วรวม 91 คัน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น

"เราให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และครบวงจร โดยเน้นการบริการหลังการขายที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าการบริการทั่วไปเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ภายใต้ เอ็มจี แพสชั่น เซอร์วิส  ซึ่งเอ็มจีถือเป็น แบรนด์รถยนต์รายแรกและรายเดียวที่ได้นำรูปแบบการบริการเช็คระยะและตรวจสภาพรถนอกสถานที่มาให้บริการในประเทศไทย"

พงษ์ศักดิ์กล่าวว่า เอ็มจีตั้งเป้าหมายให้โชว์รูมและศูนย์บริการมีรถบริการโมบายเซอร์วิสเพิ่มมากขึ้น และฝึกฝนทักษะเจ้าหน้าที่ ที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้ตามมาตรฐานของบริษัท ซึ่งเราเชื่อว่าจำนวนรถบริการจะช่วยยกระดับการบริการหลังการขาย และเดินหน้าผลักดันเอ็มจี แพสชั่น เซอร์วิส ให้เป็นที่สุดแห่งบริการหลังการขาย"

สำหรับการบริการเช็คระยะและตรวจสภาพรถนอกสถานที่ เป็นการให้บริการดูแลรักษาตามระยะพื้นฐาน เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจสภาพการทำงานของชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ ตามระยะ 1 หมื่น กม. การซ่อมเบา เปลี่ยนอะไหล่พื้นฐาน เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟส่องสว่าง ใบปัดน้ำฝน เป็นต้น รวมถึงการช่วยเหลือฉุกเฉิน