‘ซอฟท์โลน’ หนุนสินเชื่อแบงก์ไตรมาส 2 ฟื้น

‘ซอฟท์โลน’ หนุนสินเชื่อแบงก์ไตรมาส 2 ฟื้น

“แบงก์พาณิชย์” เผยสินเชื่อปล่อยใหม่วูบ โควิด-เศรษฐกิจชะลอ ฉุดรายได้และเครดิตลูกหนี้ ทำให้เข้ากู้ยากขึ้น แต่สินเชื่อมาตรการรัฐและซอฟท์โลนดีมานด์มีต่อเนื่องหนุนแนวโน้มสินเชื่อไตรมาส 2 ขยับ

นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ทิศทางการปล่อยสินเชื่อใหม่ไตรมาส 2ปี2563 พบว่ายอดขอกู้ใหม่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้กู้เองอยู่ในโหมดระวังการใช้จ่ายและการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจชะลอและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่การปล่อยกู้ของธนาคาร ต้องดูความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้มากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันเครดิตลูกหนี้บางกลุ่มลดลง จากรายได้ที่ลดลง ทำให้เข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้สินเชื่อปล่อยใหม่จะมีแนวโน้มลดลง แต่สินเชื่อที่ปล่อยผ่านมาตรการต่างๆยังปรับตัวเพิ่มขึ้น และยังเห็นแนวโน้มการขอสินเชื่อต่อเนื่อง เช่นการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟท์โลน จากธนาคารออมสิน และจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อัตราดอกเบี้ย 2% ซึ่งจะมีส่วนหนุนไม่ให้สินเชื่อโดยรวมของธนาคารไม่ได้ปรับลดลงมากนัก

“วันนี้สินเชื่อปล่อยใหม่น้อยลง เพราะมีหลายอย่างที่ต้องดูมากขึ้น ทั้งเครดิตผู้กู้ และความจำเป็นในการใช้เงินกู้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน  คนที่มีศักยภาพพร้อมลงทุน ยังชะลอการลงทุนไปก่อน  ส่วนกลุ่มที่มีความต้องการ เครดิตต่ำลง ทำให้ขอสินเชื่อยากขึ้น  ซึ่งไม่ได้มาจากแบงก์ตั้งมาตรฐานหรือเข้มงวดการปล่อยกู้มากขึ้น  ส่วนซอฟท์โลนยังไปได้ดี และมีดีมานด์เข้ามาต่อเนื่อง”

นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า  สินเชื่อเอสเอ็มอี ยังไม่เห็นดีมานด์ลูกค้าใหม่ แต่ลูกค้าเก่ายังมีดีมานด์ขอสินเชื่อเข้ามา   แต่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากลูกค้าบางส่วนรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ และโควิด-19 ทำให้ตัดสินใจไม่ลงทุนใหม่ในระยะนี้

ในส่วนสินเชื่อซอฟท์โลน  พบว่าเข้ามาพยุงสินเชื่อให้เติบโตได้ โดยเฉพาะซอฟท์โลนจากธปท. ปัจจุบันลูกค้าธนาคารมียอดขอกู้แล้วเกือบ 2พันล้านบาท ได้รับอนุมัติใน 3 สัปดาห์แรกราว 600 ราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขนาดเล็ก ยอดกู้ระดับ 20-30 ล้านบาท ที่ต้องการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

“การขอสินเชื่อโดยรวมค่อนข้างชะลอ เพราะธุรกิจชะลอการลงทุน เพราะอยากให้สถานการณ์ผ่อนคลายก่อน ขณะที่แบงก์ก็ไม่ได้เข้ม จนไม่สามารถผ่านเกณฑ์อนุมัติสินเชื่อได้ แต่แบงก์ก็ดูแนวโน้มเครดิตลูกค้า และความสามารถชำระหนี้ด้วย แต่หากดูสินเชื่อซอฟท์โลนยังมาต่อเนื่อง น่าจะช่วยภาพรวมสินเชื่อให้อยู่ระดับดีได้”

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าดีมานด์สินเชื่อใหม่ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีลดลง ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า แต่การขอสินเชื่อผ่านมาตรการซอฟท์โลน ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมการเติบโตสินเชื่อยังมีอยู่ ยืนยันว่ายอดขอกู้ใหม่ที่ลดลง ไม่ได้มาจากการที่ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันธนาคารจำเป็นต้องพิจารณาการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยยึดเครดิตผู้กู้ ความสามารถชำระคืนของผู้กู้เป็นหลัก

สำหรับยอดปล่อยกู้ซอฟท์โลน ธปท.รายงานว่ายอดล่าสุดอยู่ที่ 42,000 ล้านบาท  จาก 17 สถาบันการเงิน โดยมีจำนวนลูกหนี้ธุรกิจที่เข้าถึงสินเชื่อซอฟท์โลนแล้ว25,000 ราย  วงเงินปล่อยกู้ 50% เป็นการปล่อยให้กับธุรกิจที่มีวงเงินกู้ต่ำกว่า 5 ล้านบาท