เรดแฮท แนะใช้ 'ระบบอัตโนมัติ' ปิดจุดอ่อนซิเคียวริตี้

เรดแฮท แนะใช้ 'ระบบอัตโนมัติ' ปิดจุดอ่อนซิเคียวริตี้

“เรดแฮท” แนะใช้ระบบอัตโนมิติปิดช่องโหว่ด้านซิเคียวริตี้ ชี้ช่วยเพิ่มความคล่องตัวการทำงาน เปิดทางผู้ดูแลไอที ผู้ที่เกี่ยวข้องติดต่อสื่อสารระหว่างกัน

นายมาสสิโม เฟอรารี่ ผู้จัดการฝ่ายที่ปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ เรดแฮท กล่าวว่า ระบบอัตโนมัติสามารถช่วยให้การทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของธุรกิจองค์กรรวมเป็นหนึ่งเดียว พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ดูแลด้านไอทีและผู้เกี่ยวข้องทางธุรกิจทุกฝ่ายสามารถสื่อสารกันได้

ที่ผ่านมา แม้ว่าทีมงานที่ดูแลด้านการรักษาความปลอดภัยของบริษัทใหญ่ๆ จะมีเตรียมการมาอย่างดีแล้ว ทว่าบางครั้งก็ยังขาดเฟรมเวิร์คและการสื่อสารพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ เพื่อใช้สื่อสารความคิด แผนการออกแบบ และกระบวนการต่างๆ โดยความสำเร็จจะมาจากการใช้เวิร์กโฟลว์และกระบวนการทำงานที่เป็นอัตโนมัติที่ทำงานด้วยภาษาสากลที่สามารถโปรแกรมได้

สำหรับระบบอัตโนมัติที่จะนำมาใช้ควรรองรับวิธีการทำงานที่ใครก็สามารถเข้าใช้งานได้ มากกว่าจะเป็นระบบปิดที่มีกรรมสิทธิ์ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบนิเวศด้านการรักษาความปลอดภัยอันซับซ้อนที่มีอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่เสียสมดุล 

โดยสรุประบบจำเป็นต้องได้รับการออกแบบในลักษณะแยกเป็นโมดูล เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จำนวนมากที่องค์กรขนาดใหญ่นำมาใช้เพิ่มขึ้นตลอดเวลาได้

เขากล่าวว่า ระบบอัตโนมัติยังช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบไอทีทุกฝ่าย แต่ทั้งนี้การนำระบบอัตโนมัติมาใช้เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ทีมไอทีต้องมองหาและนำเครื่องมือต่างๆ มาทำงานร่วมกันให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา เพื่อใช้สนับสนุนโปรแกรมอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างครบวงจร

อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เช่น อุปกรณ์ปลายทาง(endpoint) เน็ตเวิร์ก และการรักษาความปลอดภัยข้อมูล การบริหารจัดการกลุ่มคน กระบวนการ และแอพพลิเคชั่นจำนวนมากอาจมีโอกาสเกิดความเสี่ยงขึ้นได้หากไม่ได้ใช้เวิร์กโหลดที่เป็นระบบอัตโนมัติ

ด้านแนวทางที่เหมาะสมหากต้องการทำให้การเปลี่ยนแปลงประสบความสำเร็จได้มากขึ้น ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านบุคลากร และความสามารถในการทำให้ทีมที่แตกต่างกันมานั่งลงหารือร่วมกันได้ว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน

“การโจมตีทางไซเบอร์และการละเมิดสิทธิ์ที่กำลังแพร่กระจายมากขึ้น ผลักดันให้การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรได้รับการพิจารณาตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยระบบรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติจะเป็นโซลูชั่นที่เข้ามาช่วยขจัดความท้าทายดังกล่าว ในฐานะกุญแจสำคัญในการกำกับดูแลความปลอดภัยและก่อให้เกิดวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกัน”