อ่อนตัว

อ่อนตัว

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1283 / 1278 จุด แนวต้าน 1303 / 1317 จุด ปัจจัยลบ คือ ประธานเฟดสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความเสี่ยงขาลง และการวิตกต่อการระบาดรอบสอง หลังหลายประเทศเร่งผ่อนคลายธุรกิจ ส่วนปัจจัยบวก คือ ผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตวานนี้ของไทยเป็น 0 ราย และทางเทคนิคยังไม่มีสัญญาณขายรอบใหญ่

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

       1) ประธานเฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความเสี่ยงขาลง แต่ยืนยันไม่ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

       2) วุฒิสภาสหรัฐฯ เสนอกฎหมายแซงชั่นจีน หากไม่ให้ความร่วมมือตรวจสอบที่มาของเชื้อโรค COVID -19

       3) จับตา รายงานปริมาณน้ำมันสำรองและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน สัปดาห์ก่อนของสหรัฐฯ

       4) บจ.ไทยยังคงทยอยประกาศงบการเงินต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกหรือลบต่อหุ้นรายหลักทรัพย์

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA -จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คาด 2.5 ล้านราย(Vs สัปดาห์ก่อน 3.169 ล้านราย), OIL -IEA Oil market report

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทย: ดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบแคบ 1290 -1303 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1294.55 จุด -5.14 จุด -0.40% วอลุ่ม 6.22 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำขึ้น คือ เกษตรฯ +5.38% ไฟแนนซ์+2.68% ชิ้นส่วนอิเล็กฯ +2.47% หลักทรัพย์ที่ร่วงกว่า 4% ได้แก่ KCE TU AMANAH THAI RSP ASAP THREL SPF PLAT ส่วนหลักทรัพย์ที่ปรับขึ้นแรง ได้แก่ KTC MTC STA PRM NER RBF PSTC SQ PHOL WIIK VNG SMPC

- ตลาดหุ้นโลกปิดร่วงต่อ: การส่งสัญญาณเตือนของประธานเฟดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีความเสี่ยงขาลง และการส่งสัญญาณตลาดหุ้นสหรัฐฯ สูงเกินความเป็นจริงของผู้เชี่ยวชาญการเงิน เป็นปัจจัยถ่วงตลาด DJ -2.17% Nasdaq -1.55% S&P500 -1.75% DAX -0.05% CAC40 -0.39%

- น้ำมันดิบกลับมาปิดลบ: WTI -USD0.49 -1.9% ปิด USD25.29/บาร์เรล Brent -USD0.79 -2.6% ปิดที่ USD29.19/บาร์เรล วิตกอุปสงค์ลดลง หลังประธานเฟดเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงขาลง แม้สต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนลดลงกว่าคาด –7 แสนบาร์เรล (Vs คาด +4.8 ล้านบาร์เรล)

+ ทองคำบวกต่อเนื่อง: ทองคำปิดที่ USD1716.40/ออนซ์ +USD9.60 +0.56% จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ


- COVID -19 Update: พบผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 4.3 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 2.94 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.3 ล้านราย เสียชีวิต 8.3 หมื่นราย

+ ไทย: Update ณ วันที่ 13 พ.ค. ศบค. รายงาน 1) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ มีจำนวน 0 ราย (Vs วันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ 2 ราย) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,017 ราย  2) จำนวนผู้เสียชีวิต 0 ราย (Vs วันอังคารที่ผ่านมา 0 ราย) จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 56 ราย ทำให้มีโอกาสสูงที่จะผ่อนปรนให้เปิดธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น อาทิ ภูเก็ตเตรียมเปิดสนามบินในวันที่ 16 พ.ค. เป็นต้น

- เกาหลีใต้: รายงานวานนี้ 1) ผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 26 ราย เป็นสะสม 10,962 ราย 2)ผู้เสียชีวิต 1 ราย สะสมเป็น 259 ราย โดยทางการยังคงติดตามกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับย่านไนท์คลับอีแทวอนในกรุงโซล หลังพบผู้ติดเชื้อแล้ว 119 ราย

+ ญี่ปุ่น: รัฐบาลเตรียมประกาศยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินวันนี้ ยกเว้นบางจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อใหม่สูง เช่น โตเกียว โอซาก้า เป็นต้น

+/ - บจ. ที่ประกาศงบวันนี้: จับตารายงานกำไรของ AOT BCH BEM BJC CENTEL CRC ERW GULF LH RATCH STA THG

- THAI: รัฐบาลให้เส้นตายส่งแผนฟื้นฟูฯ ภายในวันที่ 21 พ.ค. ก่อนเสนอครม. พิจารณา โดยผู้เชี่ยวชาญการเงิน แนะนำให้เสนอศาลล้มละลายเพื่อฟื้นฟูฯ

- USA: ประธานเฟดส่งสัญญาณเตือนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนสูงและยังคงขึ้นกับหลายปัจจัยเสี่ยง แม้ว่าการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา เข้ามาถูกจังหวะและมีขนาดที่ใหญ่มากแล้วก็ตาม แต่หลายมาตรการยังจำเป็นที่จะถูกนำมาใช้เพื่อฉุดเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับมา แต่จะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

- USA & China: วุฒิสภาสหรัฐฯ Lindsey Graham เสนอกฎหมายให้แซงก์ชั่นจีน ถ้าจีนไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเรื่องเชื้อ COVID -19

- IMF: เตรียมปรับลดประมาณการเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงอีกครั้งในเดือน มิ.ย.

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BTS TOP CRC

หุ้นแนะนำ Trading Buy: CPF KTC MTC CPALL INTUCH STA

Derivatives: ทยอยปิดสถานะ Short ใน S50M20C900 และ S50M20P800 เพื่อทำกำไรทั้งหมด (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)