MINT - รอดูสถานการณ์

MINT - รอดูสถานการณ์

ประมาณการ 1Q63: แขวนอยู่บนเส้นด้าย

Event

ประมาณการ 1Q63

Impact

คาดขาดทุนปกติที่ 1.5 พันล้านบาท ใน 1Q63 จากกำไรปกติ 633 ล้านบาทใน 1Q62

เราคาดว่า MINT จะขาดทุนสุทธิที่ 756 ล้านบาทใน 1Q63F หนุนจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 774 ล้านบาทเนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

หากไม่รวมรายการพิเศษ เราคาดว่า MINT จะมีผลขาดทุนปกติที่ 1.5 พันล้านบาทใน 1Q63F จากที่มีกำไรปกติ 633 ล้านบาทใน 1Q62 และ 2.9 พันล้านบาทใน 4Q62 โดยปัจจัยลบที่สำคัญได้แก่ i) RevPar ที่คาดว่าจะลดลงถึง 30% YoY เหลือ 1,761 บาท ii) SSSG ที่ -11% YoY iii) EBIT margin ที่ -0.2% และ iv) ผลกระทบทางลบจากการนำมาตรฐานบัญชี TFRS16 ราว 350 ล้านบาท (ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนค่าเช่าลดลง)

RevPar จะลดลงถึง 30% YoY ใน 1Q63F โดยถูกกดดันในทุกทำเลที่ตั้ง

เราคาดว่า RevPar ของโรงแรมที่ MINT เป็นเจ้าของจะลดลงถึง 30% YoY ใน 1Q63F โดยจะมาจาก i)โรงแรมในประเทศไทย (คาดว่า RevPar จะลดลง 34% YoY) ii) พอร์ตโรงแรมในต่างประเทศที่ไม่รวม NH Hotel Group (NHH) (คาดว่า RevPar จะลดลง 26% YoY) และ iii) โรงแรมในเครือ NHH (คาดว่า RevPar จะลดลง 32% YoY) โดยผลการดำเนินงานของโรงแรมในทุกทำเลที่ตั้งถูกกระทบอย่างหนักจาก COVID-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคม 2563 เมื่อหลายเมืองทั่วโลกเริ่มใช้มาตรการกักกันเพื่อควบคุมโรคระบาด

SSSG อ่อนแอ

เราคาดว่า SSSG ใน 1Q63 จะติดลบถึง 11% YoY โดยมาจาก i) ประเทศไทย (-5% YoY) ii) ประเทศออสเตรเลีย (-6% YoY) แลประเทศจีน (-51% YoY) ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ายอดขายของธุรกิจร้านอาหารจะลดลงในอัตราที่น้อยกว่าที่ 5.6 พันล้านบาท (-6% YoY) จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

Valuation & Action

เราแนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ไปก่อน เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการของ MINT ยังคงขึ้นอยู่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 นอกประเทศไทย ในขณะเดียวกันประเด็นสำคัญที่เราเป็นห่วงก็คือภาระทางการเงินที่อยู่ในระดับสูง และโครงสร้างรายได้ที่กระจุกตัวอยู่
ในทวีปยุโรป (คิดเป็นประมาณ 70% ของรายได้รวมของธุรกิจโรงแรม) เรากำลังอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและราคาเป้ าหมาย

Risks

ผลการดำเนินงานของ NHH แย่เกินคาด และเงินบาทแข็งค่าขึ้น