นายกฯ เยี่ยมโรงครัววัดระฆัง แนะ ปชช. ดูน้ำใจ ย้ำตัวเลขติดโควิดน้อย ก็ประมาทไม่ได้

นายกฯ เยี่ยมโรงครัววัดระฆัง แนะ ปชช. ดูน้ำใจ ย้ำตัวเลขติดโควิดน้อย ก็ประมาทไม่ได้

"ประยุทธ์" เยี่ยมโรงครัววัดระฆัง เตือน ขอให้หยุดการเมือง แนะ ประชาชน ดูน้ำใจ ย้ำ ตัวเลขติดโควิดน้อย ก็ประมาทไม่ได้ ยอมรับ อยากปลดล็อคใจจะขาด โชว์เป็นครั้งแรกส่งเงินถึงมือประชาชน สั่ง คนเฝ้า-ติดกล้อง ตู้แบ่งปัน

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามพระดำริของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

โดยเมื่อเดินทางมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าสักการะพระประธานในอุโบสถ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะกับประชาชน ที่มีการจัดเก้าอี้ ให้นั่งแบบเว้นระยะห่าง โดย พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า รัฐบาล กำลังมีมาตรการผ่อนปรน ให้ประชาชน สามารถประกอบอาชีพได้ พร้อมถามประชาชนว่า ส่วนตัว เป็นนายกฯมา 5-6 ปี ยังไม่รู้อีกหรอว่า ทำไม่ได้หวังอะไร โดยทำเพื่อดูแลประชาชนเท่านั้น ส่วนที่ใครจะว่าอะไร ก็ขอไม่ตอบโต้

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกว่า สิ่งที่เราภูมิใจ คือ มีคนมาร่วมกันทำเพื่อส่วนรวม อย่าง ตู้ปันสุข โดยถ้าทุกคนมีระเบียบ ผู้ที่ให้ก็จะมีกำลังใจ ส่วนผู้ที่หยิบไปจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้ผู้อื่นไม่ได้ ขณะเดียวกัน ย้ำว่า การช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ เป็นครั้งแรกที่รัฐบาล มอบเงินโดยตรงถึงประชาชน ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้ นอกจากนี้ แนะว่า โลกยุคใหม่ หรือ นิวนอมอล ที่ทุกคนจะระมัดระวังเรื่องสุขภาพ แบ่งปันคนอื่น รวมถึงใช้ดิจิทัล ในการดำรงชีวิต ดังนั้น ทุกคนต้องปรับตัว และตอบรับเทคโนโลยีแบบใหม่ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้ไม่มีการเมือง โดยย้ำว่า ไม่ได้มาการเมือง ซึ่งเรื่องการเมือง ก็ขอให้ว่ากันไป แต่วันนี้มาดูผลกระทบจากโควิด โดยมาตรวจเยี่ยมโรงครัวของวัดระฆังฯ ที่ทำอาหารสด และแจกจ่ายสิ่งของจำเป็น ซึ่งแบ่งเป็นมารับที่วัด และไปแจกจ่ายตามชุมชนทุกวัน ขณะเดียวกัน ขอให้ช่วยส่งเสริมตั้งโรงทาน และตู้แบ่งปัน เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความสามัคคี โดยคนที่มีศักยภาพ ก็ช่วยกันบริจาค

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกว่า ได้สั่งการให้ดูแลตู้แบ่งปันให้มากขึ้น โดยให้มีคนเฝ้า หรือ ติดกล้อง เพื่อดูพฤติกรรม พร้อมเตือนว่า ต้องไม่เห็นแก่ตัว และนึกถึงคนอื่น เพราะเรากำลังเดินหน้าสู่นิวนอมอล โดยต้องมีการปรับตัว เนื่องจากจะเข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างอาชีพได้ในอนาคต แต่หากทำแบบเดิม ก็อาจจะไม่ได้ หรือ ได้น้อย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกว่า ขอฝากว่าการเมืองอย่าพึ่ง โดยอาจพูดถึงได้ แต่ขอให้คิดว่า ถูก หรือ ผิด อย่างไร ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ว่าใคร แต่ให้ดูสถานการณ์ และน้ำใจกัน ขณะเดียวกัน ขอเตือนว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง ไม่ใช่ว่า จะประมาทกันได้ โดยถึงแม้จะเป็นศูนย์ ก็ไม่สามารถประมาทได้ เพราะโรคยังสะสมอยู่ ซึ่งเดี๋ยวประชาชน จะเข้าใจว่าน้อย และให้เปิดทั้งหมด ซึ่งส่วนตัว ยอมรับว่า อยากจะเปิดใจจะขาด แต่ถ้าเสี่ยง ก็ต้องประเมิน

ส่วนความคืบหน้าแผนการฟื้นฟูบริษัทการบินไทยจำกัดมหาชน พล.อ.ประยุทธ์ บอก ว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งก็ต้องดูในเรื่องของแผนฟื้นฟูบริษัทฯ ส่วนที่มีการเสนอยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากมีข้อดีต่อการบินไทยเพื่อที่จะได้เข้าสู่กระบวนการการฟื้นฟูอย่างแท้จริง ก็ย้ำว่า อยู่ในเรื่องของขั้นตอนทางกฎหมายว่าจะทำอย่างไร เพราะเดิมมีกฎหมายอยู่ 2 ตัว คือกฎหมายของสหภาพฯ และกฎหมายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีอำนาจในตัวเองของเขา ดังนั้นวิธีการที่จะเข้าไปแก้ไข ก็ต้องหาวิธี โดยถ้าหาวิธีอื่นได้ก็ดีแต่ถ้าไม่มีก็ต้องกลับเข้าไปสู่ขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมย้ำว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกถึงนโยบายทำงานที่บ้านว่า ส่วนตัวไม่คิดแค่ช่วงโควิด แต่กำลังคิดถึงข้างหน้าในปัญหาการจราจร โดยทำงานที่บ้าน หรือ เรียนที่บ้าน ส่วนตัว ให้นโยบายไปทบทวนว่า อนาคตมีวิชาอะไรที่สามารถเรียนที่บ้านได้ ซึ่งจะช่วยลดเวลาไปโรงเรียน รวมถึงเหลื่อมเวลาทำงาน โดยจะช่วยให้การจราจรเบาลง