โควิด-19พ่นพิษโอเชี่ยนฯ เลื่อนผุดคอนโดขอนแก่น

 โควิด-19พ่นพิษโอเชี่ยนฯ  เลื่อนผุดคอนโดขอนแก่น

โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ ชะลอเปิดโครงการโอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ ขอนแก่น เป็นไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมเลื่อนโครงการโอเชี่ยน วิลเลจ ภูเก็ต ปีหน้ารอโควิดคลี่คลาย ฟื้นกำลังซื้อท่องเที่ยว

นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เกิดภาวะช็อกตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทจึงต้องเลื่อนเปิดโครงการโอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ ขอนแก่น โครงการ 2 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมคอนโลว์ไรส์ มูลค่า400ล้านบาท ความสูง 8 ชั้น จำนวน200ยูนิต ออกไปเปิดในไตรมาส 3 ของปีนี้แทนหลังจากโครงการแรกที่เหลืออีก 10 ยูนิตรอโอนกรรมสิทธิ์ โดยยังประเมินว่าตลาดอสังหาฯจังหวัดขอนแก่น ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่มากนักเมื่อเทียบกับกรุงเทพฯและหัวเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนเลื่อนการเปิดตัวโครงการโอเชี่ยน วิลเลจ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวที่มีระดับราคา4-5 ล้านบาทจำนวน 100 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาทไปเป็นปี 2564 โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการ “โอเชี่ยน ทาวน์ ภูเก็ต” มีมูลค่าโครงการ700 ล้านบาท ที่มีระดับราคา3-5 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น187 หลัง เป็นทาวน์โฮม 171 หลัง และอาคารพาณิชย์ 16 หลัง ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เนื่องจากระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตรุนแรง เนื่องจากลูกค้าหลักเป็นคนจีน ทำให้หลายโครงการต้องชะลอทั้งหมด ทั้งการก่อสร้าง การโอนขายต่าง ๆ หลายโครงการค่อนข้างหยุดชะงัก จึงต้องรอให้ทุกอย่างคลี่คลายแล้วจึงจะมีการประเมินอีกทีว่าจะเปิดตัวเมื่อไร

“ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยว ตลาดหลักหายหมดเลยไม่ว่าจะเป็นจีน ยุโรป ส่งผลต่อกำลังซื้อของคนในพื้นที่ รวมทั้งคนนอกพื้นที่เข้ามาทำงาน หลายโรงแรมให้พนักงานหยุดโดยไม่จ่ายเงินเดือน (leave without pay) สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้คนเกิดความไม่มั่นใจในการเข้ามาซื้อบ้าน ที่อยู่อาศัย เพราะไม่มั่นใจว่ารายได้จะกลับมาเมื่อไหร่”

นายณพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะนักพัฒนาอสังหาฯที่ไม่ใช่รายใหญ่ที่มีสต็อกเหลือเยอะ หรือต้องการเงิดสดเข้ามามากมาย จึงไม่จำเป็นต้องลงเล่นสงครามราคาหรือเสี่ยงเปิดโครงการใหม่ออกมา ขอรอให้สถานการณ์คลี่คลาย ความเชื่อมั่นฟื้นมาก่อนค่อยเดินหน้าลงทุนต่อ เพราะบริษัทมีที่ดินเหลืออยู่หลายที่ซื้อไว้นานแล้วไม่ได้มาซื้อเพื่อทำโครงการ จึงไม่ต้องเร่งรีบ

“ช่วงนี้จึงจะเป็นเวลาในการวางแผน พัฒนาโครงการใหม่ที่ออกมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่คาดว่าจะเปลี่ยนไปหลังจากโควิดคลี่คลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดีไซน์เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานที่บ้าน หรือมาตรการเว้นระยะห่างที่สังคม ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาให้บริการแก่ลูกบ้านทั้งด้านความปลอดภัย สุขภาพที่ดี เป็นต้น” นายณพงศ์ กล่าว