เอไอเอส-ไอบีเอ็ม ลุยโซลูชั่นคลาวด์ครบวงจร

เลี่ยงปัญหาด้านซิเคียวริตี้ รวมถึงระบบจัดการที่ขาดเสถียรภาพและเครื่องมืออินทิเกรชันที่ไม่เชื่อมโยงกัน

เอไอเอส บิซิเนส ผู้นำบริการคลาวด์ครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจเลือกใช้บริการจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ โดยมีอัตราการเติบโตของบริการคลาวด์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 จับมือ ไอบีเอ็ม นำบริการ คลาวด์ แมเนจ เซอร์วิส สำหรับ มัลติคลาวด์ ระดับโลก เข้าช่วยองค์กรในภาคธุรกิจต่างๆ ของไทย เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้การดำเนินงานด้านไอทีขององค์กรต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และไม่มีสะดุด แม้ในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่พนักงานจำนวนมากยังคงต้องทำงานจากบ้านก็ตาม

โดยเอไอเอส บิซิเนส จะร่วมกับไอบีเอ็ม ในการให้บริการเทคโนโลยีแบบโอเพ่นที่ยืดหยุ่น รวมถึงบริการบริหารจัดการระบบระดับโลกที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจต่างๆ ในการบริหารจัดการคลาวด์

ปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่ต่างใช้งานและต้องรับมือกับการบริหารจัดการสภาพแวดล้อม คลาวด์ อยู่แล้วอย่างน้อย 5 แห่ง ซึ่งมักเป็นบริการคลาวด์จากผู้ให้บริการหลายราย ทำให้บริษัทอาจกังวลกับการบริหารแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีการตั้งค่าเฉพาะและมีความซับซ้อน แถมด้วยความเสี่ยงจากการเกิดปัญหาด้านซิเคียวริตี้ รวมถึงระบบจัดการที่ขาดเสถียรภาพและเครื่องมืออินทิเกรชันที่ไม่เชื่อมโยงกัน

ภายใต้ความร่วมมือนี้ เอไอเอส บิซิเนส และไอบีเอ็ม จะร่วมกันให้บริการ คลาวด์ แมเนจ เซอร์วิส สำหรับแพลตฟอร์ม คลาวด์ ทั้งแบบ พับบลิก ไฮบริด และ ออน-พรีมิส เพื่อช่วยให้องค์กรไทยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่แม้ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เพราะสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือการที่ระบบไอทียังต้องสามารถให้บริการลูกค้าและรองรับการรันแอปพลิเคชันทั้งหมดต่อไปได้ แม้พนักงานจะไม่สามารถเข้ามาทำงานที่บริษัทได้เต็มที่เหมือนเคยก็ตาม

บริการ คลาวด์ แมเนจ เซอร์วิส จะช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ว่าแผนงานด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan) ของตนจะเดินหน้าต่อไปได้แบบไม่สะดุด โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์คอยช่วยควบคุมการทำงานของแอปพลิเคชันให้ต่อเนื่อง พร้อมมอนิเตอร์ระบบแบบ remote ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ความร่วมมือในครั้งนี้ยังขยายขอบเขตครอบคลุมการอินทิเกรทและให้บริการแอปพลิเคชันแบบต่อเนื่อง รวมถึงการมอนิเตอร์ microservices และ container ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อยกระดับการให้บริการระบบอัตโนมัติบนพื้นฐานแนวคิดแบบ Zero-Touch Operations

“ในขณะที่องค์กรไทยหลายแห่งเริ่มใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีก้าวล้ำเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ Cloud แต่สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือการขจัดอุปสรรคและความซับซ้อนที่มี โดยเฉพาะเมื่อต้องบริหารจัดการสภาพแวดล้อมแบบ มัลติคลาวด์” นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าว

ทั้งระบุว่า “เอไอเอส บิซิเนส ในฐานะผู้นำบริการ คลาวด์แบบครบวงจร และไอบีเอ็มพร้อมแล้วที่จะให้บริการลูกค้าในทุกภาคธุรกิจด้วยระบบที่ให้มุมมองการควบคุม กำกับดูแล และปฏิบัติงานอัตโนมัติอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าแอพพลิเคชันของลูกค้าจะอยู่บนคลาวด์ ออน พรีมิส หรือบริเวณขอบของเครือข่าย (Edge) ก็ตาม”

การผนึกความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายทั้งแบบใช้สายและไร้สายของเอไอเอสเข้ากับเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญระดับโลกในการบริหารจัดการ คลาวด์ ของไอบีเอ็ม ทำให้ลูกค้าของเอไอเอส บิซิเนส มั่นใจได้ว่าจะได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ที่ขับเคลื่อนโดยการวิเคราะห์ข้อมูลอันชาญฉลาด รวมถึงบริการสนับสนุนเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ

นอกจากนี้ บริการแมเนจ คลาวด์ เซอร์วิส แบบครบวงจรที่มีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และออโตเมชันเป็นหัวใจสำคัญ ยังช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่น รองรับการขยับขยายไปยังเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือไอโอที และ 5จี ในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย

ไอบีเอ็มได้สร้างบริการคลาวด์ แมเนจ เซอร์วิส ที่รวมบริการต่างๆ ไว้อย่างครบครันในรูปแบบ as-a-service ทั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบริการที่จะช่วยให้ไอบีเอ็มสามารถให้คำแนะนำ สร้าง ย้าย และจัดการโซลูชัน คลาวด์ ได้ทั้งในสภาพแวดล้อมแบบ พับบลิก ไพรเวท และ ออน พรีมิส และระหว่างกลุ่มลูกค้าต่างๆ

“ระบบปฏิบัติการด้านธุรกิจและไอทีเป็นหัวใจสำคัญที่องค์กรส่วนใหญ่ต้องพึ่งพา และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยิ่งทำให้การขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อเนื่องกลายเป็นเรื่องที่มีความท้าทายยิ่งขึ้นไปอีก” นายอภิชาต อรุณคุณารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโกลบอลเทคโนโลยีเซอร์วิส บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว

“ไอบีเอ็ม และ เอไอเอส บิซิเนส จะร่วมกันนำศักยภาพของ คลาวด์ แมเนจ เซอร์วิส มาช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กรไทยให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นภาคการเงินการธนาคาร ประกันภัย การผลิต ยานยนต์ เกษตรกรรม หรือแม้แต่ค้าปลีกยุคใหม่”